'พระพยอม' ห่วงแนวคิด 'ยกเลิกห้ามขายเหล้าวันพระ' ทำสังคมไทยศีลธรรมอ่อนแอลง

'พระพยอม' ห่วงแนวคิด 'ยกเลิกห้ามขายเหล้าวันพระ' ทำสังคมไทยศีลธรรมอ่อนแอลง

'พระพยอม' ห่วงแนวคิด 'ยกเลิกห้ามขายเหล้าในวันพระ' ทำสังคมไทยศีลธรรมอ่อนแอลง ด้าน 'มูลนิธิเมาไม่ขับ' เผยสถิติผู้เสียชีวิตในวันพระใหญ่ลดลงเฉลี่ย 20 คน เมื่อเทียบกับวันธรรมดา

วันนี้ (21 พฤษภาคม 2567) พระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) หรือ 'พระพยอม' เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ให้สัมภาษณ์กับเพจขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) ถึงแนวคิดการ 'ยกเลิกการห้ามขายเหล้าในวันพระ' ว่า ถ้าถามไปยังผู้บริหารประเทศขณะนี้ว่า ให้เลือกระหว่างศีลธรรม กับ เศรษฐกิจ แน่นอนว่าคงได้คำตอบว่าเลือกเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องสำคัญกว่า เพราะจะเห็นว่าทุกวันนี้คนยังกินดื่ม แบบวันโกนก็ไม่ละ วันพระก็ไม่เว้น

'การสนับสนุนให้คนทำแบบนี้ เป็นการทำให้ทุกวันนี้ความเข้มแข็งทางด้านศีลธรรมอ่อนแอลงเรื่อยๆ มันไม่มีเจ้าภาพคิดทำเรื่องพัฒนาศีลธรรม เหมือนเช่นผู้นำในอดีต ถ้าเป็นแบบนี้มันก็ต้องรอไปจนกว่าจะเกิดมิคสัญญี ฆ่ากันเป็นผักเป็นปลาก่อนถึงจะรู้สึก ทุกวันนี้คนดีทำได้แค่เพียงแค่อยู่ให้เอาตัวรอดให้ได้เท่านั้น' พระราชธรรมนิเทศ กล่าว

 

 

ด้าน นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้รวบรวมข้อมูลการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดสำคัญทางพระพุทธศาสนา พบว่าประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติทางถนนเฉลี่ยวันละ 46 คน กว่าร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิต พบว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเกิดเหตุ แต่หลังจากที่รัฐบาลประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา 5 วัน ได้แก่ วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา พบว่า สถิติผู้เสียชีวิตใน 5 วันดังกล่าวลดลงไปเฉลี่ย 20 คน เมื่อเทียบกับวันธรรมดา

ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลขของวันเลือกตั้งที่กำหนดให้เป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ด้วย ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับวันพระใหญ่ ตัวเลขการเสียชีวิตจากอุบัติทางถนนที่ลดลงอย่างมาก นี่เป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าถ้ามีการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เหมาะสม จะช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องคนไทยได้ โดยปราศจากข้อโต้แย้ง จึงไม่ควรยกเลิกวันห้ามขายตามที่กลุ่มธุรกิจเรียกร้อง

 

 

ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวต่ออีกว่า ความเป็นจริงแล้ว วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กฎหมายไม่ได้ห้ามดื่ม แต่ห้ามการจำหน่าย จึงไม่เป็นการละเมิดสิทธิประชาชนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามปีหนึ่งมี 365 วัน งด 5 วันเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จะเป็นการดีต่อสุขภาพและประหยัดเงินในยามเศรษฐกิจขาลงด้วย และในทางกลับกันผู้ประกอบการร้านเหล้าผับบาร์ก็ยังได้ใช้โอกาสนี้ในการกำหนดให้เป็นวันพักผ่อนของพนักงานอีกด้วย

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศเชื่อว่าก่อนการเดินทางเข้าประเทศไหนๆ ทุกคนได้วางแผนและศึกษาบริบทกฎหมายของแต่ละประเทศนั้นมาเป็นอย่างดีอยู่แล้ว และที่สำคัญการกินดื่มไม่ได้นับเป็นแรงจูงใจหลักในการเข้ามาท่องเที่ยวบ้านเรา