บุกรังแก๊งไลฟ์สด ชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน ยึดทรัพย์ เงินสด ทองคำ 20 ล้าน
ตำรวจบุกรังแก๊งไลฟ์สด Facebook ชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน ยึดทรัพย์ เงินสด-ทองคำ 20 ล้าน เผยเปิดรับจำนำรถและอาวุธปืนที่ผิดกฎหมาย
กรณีปฏิบัติการ “FULL STEAM” บุกค้นรังแก๊งไลฟ์สดชวนแทงเลขท้ายบัตรเติมเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน ยึดทรัพย์ เงินสด ทองคำ และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท, พล.ต.ต.จิตติพล ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 และ พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ บก.สอท.4 ได้พบเบาะแสการไลฟ์สดเล่นพนันออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก Facebook ในกลุ่มลับ จึงได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “โคขุน อภิมหาเฮง” ได้ไลฟ์สดเชิญคนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ (ท้ายเลขบัตรเติมเงิน) ในกลุ่มลับจริง ซึ่งต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเฟซบุ๊กเป็น “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง” และยังคงมีพฤติกรรมไลฟ์สดเล่นพนันเรื่อยมา
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เฝ้าดูพฤติกรรมพร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน จนทราบวิธีการเล่นพนันออนไลน์ท้ายเลขบัตรเติมเงิน โดยผู้ไลฟ์สดมีแผ่นกระดาษซึ่งที่หัวกระดาษมีข้อความว่า “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง”ในแผ่นกระดาษมีการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งที่ 1 มีข้อความว่า “บน” มีตัวเลข 00-49 และอีกฝั่งมีข้อความว่า “ล่าง” มีตัวเลข 50-99 และผู้ไลฟ์สดได้มีบัตรเติมเงินจำนวนหลายใบวางอยู่
ต่อมา ผู้ไลฟ์สดจะหยิบบัตรเติมเงิน 1 ใบขึ้นมาแล้วให้ผู้ชมไลฟ์สดเลือกว่าแทงฝั่งไหน ระหว่าง บน และ ล่าง ซึ่งอัตราส่วนการได้เสีย คือ แทง 1 ต่อ 1 หากผู้ชมแทงได้ จะต้องเสียค่าส่วนต่างให้แก่ผู้ที่ไลฟ์สดในอัตรา 5 เปอร์เซ็น
บุกรังแก๊งไลฟ์สด Facebook ชวนแทงเลขท้าย ยึดทรัพย์ เงินสด-ทองคำ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายที่ใช้ในการกระทำความผิดได้ จึงได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักจำนวน 4 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 บ้านพักในพื้นที่ ม.1 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม
จุดที่ 2 บ้านพักในพื้นที่ ม.1 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม
จุดที่ 3 บ้านพักในพื้นที่ ม.6 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม
จุดที่ 4 บ้านพักในพื้นที่ ม.6 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม
ผลการตรวจค้น พบบ้านหลังหนึ่ง 1 ใน 4 จุดตรวจค้น ถูกใช้เป็นสถานที่ไลฟ์สดเล่นการพนัน อีกทั้ง พบเจ้าของเฟซบุ๊ก “บ้านฉลามทอง อภิมหาเฮง” กำลังนั่งไลฟ์สดการพนันพร้อมแอดมิน รวมจำนวน 3 ราย ได้แก่
- นายเพ็ชรราช อายุ 31 ปี
- น.ส.ปักเป้า อายุ 34 ปี
- นายปุริษธรรม อายุ 29 ปี
อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ในการเล่นพนันอีกจำนวนมาก เช่น โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง บัตรเติมเงิน จำนวน 400 ใบ สมุดจดรายชื่อลูกค้า และแผ่นกระดาษที่ใช้จดข้อมูลการเล่นการพนันอีกจำนวนมาก และยังตรวจพบอาวุธปืนสั้นผิดกฎหมายพร้อมเครื่องกระสุนบรรจุในรังเพลิงพร้อมใช้งานอีกจำนวน 1 กระบอก
ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้น เจ้าของเฟซบุ๊กได้แอบส่งข้อความทางแอปไลน์หาพ่อของ 1 ในผู้ต้องหาให้แอบขนย้ายตู้เซฟจากชั้นบนของบ้านในจุดตรวจค้นที่ 2 ไปซุกซ่อน เจ้าหน้าที่ตรวจพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ จากการสอบถามพ่อผู้ต้องหารับว่าผู้ต้องหาได้ส่งข้อความทางไลน์ให้นำตู้เซฟไปซ่อน ตนเองรักลูกจึงยอมทำตาม แต่เนื่องจากตู้เซฟมีน้ำหนักมาก ตนเองจึงใช้วิธีกลิ้งตู้เซฟจากชั้นบนของตัวบ้านลงมา
ซุกซ่อนไว้บริเวณหลังบ้าน และตอนนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าสามารถกลิ้งตู้ที่เซฟที่มีน้ำหนักมากขนาดนี้ลงมาคนเดียวได้อย่างไร เพราะตนมีอายุ 70 ปีแล้วและยังมีรูปร่างผอมบางอีก จากการตรวจสอบภายในตู้เซฟ พบเงินสดจำนวนกว่า 3,700,000 บาท พระเลี่ยมทองจำนวนหลายรายการ และทองคำแท่งน้ำหนักรวมกว่า 10 บาท
ผลการตรวจค้นจุดอื่นๆ ยังพบอาวุธปืนพกสั้นผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 กระบอก และรถยนต์ที่มีผู้อื่นนำมาจำนำไว้โดยผิดกฎหมายอีก จำนวน 13 คัน ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวน ทราบว่าเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้มีพฤติกรรมเปิดรับจำนำรถและอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายอมจำนนต่อหลักฐานพร้อมรับสารภาพว่าตนเองเปิดให้เล่นและชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันออนไลน์จริง โดยทำมากว่า 1 ปี โดยไลฟ์สดวันละ 2 ครั้งในช่วงบ่ายและช่วงกลางคืนทุกวัน จากการไลฟ์สดแต่ละครั้งมีผู้เล่นจำนวนมากทำให้มียอดเงินในการเล่นกว่า 1 ล้านบาทต่อการไลฟ์ 1 ครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และข้อหา “มีอาวุธปืนไว้และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”สำหรับเจ้าของปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย