บุกจับหนุ่มแบงก์ ธนาคารดัง ปลอมเอกสารซื้อขายรถยนต์ หาเงินใช้หนี้พนันบอล

บุกจับหนุ่มแบงก์ ธนาคารดัง ปลอมเอกสารซื้อขายรถยนต์ หาเงินใช้หนี้พนันบอล

กระแสบอลยูโร ตำรวจบุกจับหนุ่มแบงก์ เจ้าหน้าที่อาวุโสลีสซิ่ง ธนาคารดัง ปลอมเอกสารซื้อขายรถยนต์ หาเงินใช้หนี้พนันบอลออนไลน์

ท่ามกลางกระแสบอลยูโร 2024 กรณีบุกจับหนุ่มแบงก์ เจ้าหน้าที่อาวุโสลีสซิ่ง ธนาคารดัง "ปลอมเอกสารซื้อขายรถยนต์" หาเงินใช้หนี้พนันบอลออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  บก.ปปป. ร่วมกันจับกุมนายธีรภัทร์ หรือ ทัพพ์เทพฯ  ในข้อหา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11

และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

 โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนเลียบมหาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปปป. นำทีมงานออกสืบสวน เนื่องจากได้รับการประสานจาก นายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ เขต 6 และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองการต่อต้านการทุจริต ให้จับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง  

เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้สืบสวน จนทราบว่า เป็นอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของลีสซิ่งธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ร่วมกันกับเพื่อนที่ทำเต้นท์รถ ทำเอกสารปลอม แก้ไขสัญญา โดยดึงเอาเอกสารจากเต้นท์รถยนต์อื่น ๆ ออก เปลี่ยนเป็นของเพื่อนตัวเองแทนเพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชั่นและเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมจนขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติแล้ว จึงเอาเงินส่วนต่างไปใช้ส่วนตัว แล้วหลบหนีหมายจับ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท. อำนวย วิชิตโสภณ สว.กก.4 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปปป. ดำเนินการ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. พบว่า นายธีร์ (นามสมมติ) ผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีมากบดานอยู่กับแฟนใหม่ที่จังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้ทำงาน จึงได้ติดตามจนไปถึงลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ และแสดงหมายจับให้นายธีร์ฯ ดู จึงได้ทำการจับกุมและนำตัวส่งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

จากการสอบถามนายธีร์ฯ ให้การว่า ตนเคยเป็นเจ้าหน้าทีธนาคารสีส้มมา 10 ปี อยู่ในหน้าที่สินเชื่อรถยนต์มาโดยตลอด จนเกิดความเชี่ยวชาญด้านการเงินการตลาด

พอทราบช่องทางในการทำทุจริต จากนั้นย้ายมาอยู่ธนาคารสีฟ้า และตนติดหนี้พนันบอลประกอบกับครอบครัวมีปัญหา จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงได้คิดทำเรื่องการปลอมเอกสารเพื่อเอาเงินจากธนาคารไปใช้หนี้ของตน จนถูกไล่ออกจากธนาคาร และที่ผ่านมาเคยติดคุกมาแล้ว 3 ปี ตนเคยต้องยืมบัตรเครดิตเพื่อนใช้ เกินวงเงินแล้วหนีไม่จ่าย ต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุลมาจนถึงทุกวันนี้  

ในส่วนของขั้นตอนการทำเอกสารปลอมนั้น นายธีร์ฯ ให้การว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2556 ตนเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารทำหน้าที่เกี่ยวกับการตลาดรถยนต์ใช้แล้ว (ลีสซิ่ง) ได้ร่วมกับเพื่อนของตนซึ่งเปิดเต้นท์ขายรถกระทำการในครั้งนี้ ตนจะเข้าไปติดต่อจัดทำสัญญากับลูกค้าที่เต้นท์รถนั้นๆ เพื่อให้เกิดความแนบเนียน ก่อนจะรวบรวมเอกสารนำส่งบริษัทเพื่อพิจารณาสินเชื่อ

และได้นำเอกสารสัญญา และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเต้นท์รถดังกล่าวนั้นออก แล้วสลับเป็นเต้นท์รถของเพื่อนของตนแทน เพื่อรับผลประโยชน์เป็นเงินที่บริษัทโอนจ่ายค่ารถให้กับเต้นท์ และค่าคอมมิชชั่นที่จะได้จากธนาคาร แล้วนำมาใช้ส่วนตัว กระทำการอยู่อย่างนี้หลายครั้ง จนบริษัทได้รับความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท