คืบหน้า คดี 6 ศพ พบไซยาไนด์ในร่างกาย ต่างชาติดับคาโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์

อัปเดทล่าสุด คืบหน้า คดี 6 ศพ ต่างชาติดับคาโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ "พบสารไซยาไนด์ในร่างกาย" ผลตรวจชัดเจนพบของเหลวสีดำ เหมือนกาแฟดำอเมริกาโน อยู่ในกระติกเก็บความร้อนอะลูมิเนียม ทำให้เสียชีวิตฉับพลัน ปมเหตุจูงใจถูกวางยาพิษ คาดหนี้สินล้านบาท เจรจาเคลียร์หนี้สินกันไม่ลงตัว แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เตรียมเปิดแถลงข่าวเวลา 13.00 น. แล้ว ไซยาไนด์คืออะไร? อันตรายแค่ไหน เช็กเลย  

รายงานข่าวจากทีมสืบสวนแจ้งว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำลูกสาวของ ผู้เสียชีวิต ระบุว่า พ่อกับแม่บอกว่าเดินทางไปประเทศไทย เนื่องนัดเจรจาเรื่องหนี้สินที่ถูกยืมไปที่ประเทศไทย โดยยอดหนี้สินหลักหลายล้านบาท ทำให้เจ้าหน้าที่คาดว่าเจรจาเคลียร์หนี้สินกันไม่ได้ และถูกวางยาพิษชนิดร้ายแรงดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับยาพิษรายงานจากชุดสืบสวนนครบาล ระบุว่า ผลตรวจชันสูตรศพเบื้องต้น ผู้เสียชีวิต หมู่ใน โรงแรม หรูกลางกรุง ออกมาแล้ว 2 ศพแรก พบสารไซยาไนด์ ในร่างกาย คาดเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.สพฐ.ตร.) ระบุว่า เมื่อวานนี้ได้เก็บพยานหลักฐานในกระติกเก็บความร้อนที่เป็นอะลูมิเนียม ซึ่งไม่ใช่ของโรงแรม เป็นกลุ่มผู้ตายพกมาเอง

ภายในเป็นของเหลวสีดำ คือ กาแฟดำอเมริกาโน และมีแก้วกาแฟที่ดื่มแล้วทั้งหมด 6 แก้ว ได้เก็บไปตรวจ นอกจากนี้ยังได้เก็บอาหาร 3-4 อย่างของทางโรงแรมที่มีการเปิดเตรียมรับประทานอาหารไว้ด้วย 

ส่วนน้ำในกระติกพบสาร KCN หรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตอนนี้ผลตรวจเบื้องต้นออกมา 1 อย่าง แล้วคือของเหลวที่อยู่ในกระติก ซึ่งเป็นผลที่มีความชัดเจน และกระจ่างที่ทำให้เสียชีวิตโดยฉับพลัน หากดูด้วยตาเหมือนเป็นกาแฟดำ แต่บอกได้ว่าพบสารพิษชนิดหนึ่ง

 

ล่าสุดมีรายงานว่าทางแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะเปิดแถลงข่าวเรื่องนี้ในเวลา 13.00 น. ที่โรงพยาบาล

นิติเวช จุฬาฯ แถลงผลชันสูตรการเสียชีวิต 6 ชาวเวียดนาม เสียชีวิตจากไซยาไนด์

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมรศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วม แถลงผลชันสูตรทั้ง 6 ราย

โดย รศ.นพ.กรเกียรติ ระบุว่า ในภาพรวมศพทั้งหมดที่ได้รับ 6 ราย ประกอบไปด้วยผู้หญิง 3 ราย ชาย 3 ราย ทั้ง 6 ร่างทราบชื่อนามสกุลทั้งหมด รวมถึงเชื้อชาติ โดยเป็นชาวเวียดนาม 4 รายและอเมริกันอีก 2 ราย ในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลทั้งหมดมีการพิสูจน์ตัวเอกสารหลักฐาน ซึ่งตรงกับสภาพศพที่เราได้รับ

ระยะเวลาการเสียชีวิต 

ประเมินตั้งแต่การตรวจพื้นที่ สถานที่เกิดเหตุ เบื้องต้นที่ทางทีมแพทย์เข้าไปดู ประเมินศพทุกรายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 - 24 ชั่วโมง

สาเหตุการเสียชีวิต 

เบื้องต้นทุกรายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ใน 6 รายนี้ พบว่าศพทุกรายมีร่องรอยของการขาดอากาศเกิดขึ้น โดยริมฝีปากมีสีม่วงเข้ม ซึ่งเป็นการบ่งชี้อย่างหนึ่งว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

เลือดสีที่พบ พบว่าค่อนข้างแดงสด แตกต่างจากเคสทั่วๆไป ทีมชันสูตร จึงตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจมีสารพิษบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งพบได้บ่อยคือ "ไซยาไนด์" 

หลังจากนั้นจึงมีการการผ่าชันสูตร พบว่าอวัยวะภายในต่างๆไม่พบร่องรอยอะไรสำคัญ แต่พบว่ามีเลือดคั่งในอวัยวะต่างๆปริมาณมาก 

สาเหตุการเสียชีวิตทั้ง 6 ราย เป็นการสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากพิษของสารไซยาไนด์ โดยหลังจากนั้นเราจึงได้เอาเลือดไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจเลือด 1-2 วันเพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง
 

 

"ไซยาไนด์" คืออะไร? อันตรายถึงตาย

ไซยาไนด์ คืออะไร?

ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นกลุ่มของสารเคมีที่มี ไซยาไนด์ไอออน (CN-) เป็นองค์ประกอบ สารเคมีกลุ่มนี้มีความเป็นพิษสูงมาก ใช้ในการทำงานบางอย่าง เช่น การชุบโลหะ การสังเคราะห์สารเคมี การตรวจวิเคราะห์ทางเคมีในห้องปฏิบัติการ

สารประกอบกลุ่มที่เป็น เกลือไซยาไนด์ (Cyanide salts) มีหลายชนิด ที่พบบ่อย เช่น

• โซเดียมไซยาไนด์ (Sodium cyanide)
• โพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium cyanide)

หรือพบในรูปเกลือชนิดอื่นๆ เช่น

• แคลเซียมไซยาไนด์ (Calcium cyanide)
• ไอโอดีนไซยาไนด์ (Iodine cyanide) เป็นต้น

เมื่อเกลือไซยาไนด์สัมผัสกับกรด หรือมีการเผาไหม้ของพลาสติกหรือผ้าสังเคราะห์ จะได้แก๊สไฮโดรเจนไซยาไนด์ (Hydrogen cyanide) เกิดขึ้น

แก๊สชนิดนี้มีพิษอันตรายเช่นเดียวกับเกลือไซยาไนด์ แต่แพร่กระจายได้ง่ายกว่า เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการเสียชีวิตในผู้ที่สูดควันไฟกรณีที่มีไฟไหม้ในอาคาร

นอกจากนี้ยังพบแหล่งของ ไซยาไนด์ในธรรมชาติ ได้จาก สารอะมิกดาลิน (Amygdalin) และ สารลินามาริน (Linamarin) ซึ่งพบได้ใน

• เมล็ดแอพพริคอท (Apricot)
• เชอรรี่ดำ (Black cherry)
• หัวและใบของมันสำปะหลัง (Cassava)

ในประเทศไทยพบมีรายงาน "พิษไซยาไนด์" เนื่องจากการกินมันสำปะหลังได้บ้างพอสมควร และบางรายถึงกับทำให้เสียชีวิต

อันตรายของไซยาไนด์ (Cyanide)

ไซยาไนด์สามารถฆ่าคนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้จากหลายเส้นทาง ทั้งการสูดก๊าซไซยาไนด์เข้าไป การกินไซยาไนด์ทั้งชนิดเม็ดและชนิดน้ำ หรือแม้แต่การสัมผัสกับสารไซยาไนด์

หากกินไซยาไนด์เข้าไปขณะท้องว่างจะใช้เวลาออกฤทธิ์เป็นหน่วยนาที แต่ถ้ามีอาหารอยู่เต็มกระเพาะแล้วจะหน่วงเวลาเสียชีวิตเป็นหน่วยชั่วโมงแทน

เพราะในกระเพาะเรามีกรดที่ใช้ในการย่อยอาหารอยู่ การกินเกลือไซยาไนด์เข้าไปขณะท้องว่าง ไซยาไนด์จะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะ เป็นก๊าซไซยาไนด์อยู่ในกระเพาะอาหารและออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว

หากสูดไฮโดรเจนไซยาไนด์เข้าไปจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที

กลไกการเกิดพิษของสารกลุ่มไซยาไนด์ นั้นเกิดจากไปจับกับ Cellular Cytochrome Oxidase ทำให้เซลล์ใช้ออกซิเจนไม่ได้ (ยับยั้งการหายใจของเซลล์) เซลล์ของร่างกายจึงอยู่ในสภาพของ anoxia และเกิดภาวะ lactic acidosis (ภาวะเลือดเป็นกรดแล็กติก) ในที่สุด

อาการเมื่อได้รับไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกาย

อาการไม่รุนแรง

• กล้ามเนื้อล้า แขนขารู้สึกหนัก
• หายใจลำบาก
• ปวดหัว รู้สึกมึนๆ วิงเวียน
• คลื่นไส้ อาเจียน
• ลมหายใจมีกลิ่นอัลมอนด์จางๆ
• รู้สึกระคายเคืองคันๆ ที่จมูก คอ ปาก

อาการรุนแรง

• คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรงกว่า
• หายใจลำบาก
• ชักหมดสติ
• เสียชีวิต
   

เปิดไทม์ไลน์ คดี 6 ศพ ต่างชาติดับคาโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ 

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" พามาเปิดไทม์ไลน์ คดี 6 ศพ ต่างชาติดับคาโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ ตั้งข้อสังเกตแก้วกาแฟมรณะ เจอเศษบางอย่างใต้ก้นกาแฟ ผู้เสียชีวิตไม่ได้ออกจากห้องพักโรงแรม ตั้งแต่ช่วงบ่าย 15 ก.ค. 67 คาดเสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง ด้านตำรวจย้ำไม่พบการชิงทรัพย์ รื้อค้นที่พัก ประทุษร้ายเกิดขึ้น นายกฯ ยืนยันไม่กระทบการท่องเที่ยว คุยกับทางทูตของเวียดนามแล้ว เร่งค้นหาบุคคลที่ 7 มูลเหตุจูงใจการเสียชีวิต

วานนี้ 16 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ย่านราชประสงค์ หลังเกิดเหตุชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 ศพ จากนั้นแถลงข่าวร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบ.ช.น. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.

นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด โดยพบว่าเมื่อเวลา 16.30 น. พบศพชาวเวียดนาม 6 ราย เป็นสัญชาติเวียดนาม 4 ราย สัญชาติอเมริกา 2 ราย สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง

เบื้องต้นจากที่เกิดเหตุ ไม่มีการชิงทรัพย์ ประทุษร้ายเกิดขึ้น โดยได้สันนิษฐานว่าได้รับประทานอะไรเข้าไปหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวการปล้นทำร้าย 

และสันนิษฐานว่าอาจมีคนเวียดนามอีกคน ซึ่งยังหาตัวเจอ แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงน่าจะทราบ ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว 

ทั้งนี้จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจะมีอีกบุคคลที่เป็นคนที่ 7 ซึ่งยังไม่สามารถหารูปประพันธ์สัณฐานได้ ยังหาตัวเจอ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งทำงานอยู่ จะต้องรอผลชันสูตรพลิกศพเกี่ยวกับเรื่องของอาหาร ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากได้มีการพบกับทูตของประเทศเวียดนามและมีการอธิบายเบื้องต้นให้ทราบแล้ว

ผบช.น. แถลงพบศพนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6 ราย ไม่ได้ออกจากห้องพักโรงแรม ตั้งแต่ช่วงบ่าย 15 ก.ค. 67

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงว่าวันนี้เจ้าหน้าที่โรงแรมเข้าไปทำความสะอาดห้องพักชั้น 5 เนื่องจากต้องมีการเช็กเอ้าท์ช่วงบ่าย ปรากฏว่า เข้าไปพบผู้เสียชีวิต 6 ราย อยู่บริเวณโซนรับแขก 4 คน และในห้องนอน 2 คน เป็นชาย 3 ราย หญิง 3 ราย

ทั้งหมดไม่ได้มาเช็กอินพร้อมกัน โดยทยอยมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค. และ 14 ก.ค จองห้องพักชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง และห้องพักชั้น 5 จำนวน 1 ห้อง โดยแจ้งว่าเข้าพัก 7 คน แต่เช็กอินเพียง 5 คน และพบศพ 6 คน

โดยเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ผู้ที่เข้าพักชั้น 7 มีกำหนดเช็กเอ้าท์ตอนบ่าย แต่ไม่ได้ออกจากโรงแรม และได้นำกระเป๋ามารวมกันที่ชั้น 5 ซึ่งมีกำหนดเช็กเอ้าท์วันที่ 16 กรกฎาคม 2567

ตั้งข้อสังเกตแก้วกาแฟมรณะ ต่างชาติดื่มแล้วตาย 6 ศพ โรงแรมดัง ย่านราชประสงค์

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า ตำรวจเชื่อว่าทั้งหมดเสียชีวิตหลังเวลา 13.53 น. ของวันที่ 15 ก.ค. เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการสั่งอาหารมา 6 จาน แต่จานทั้งหมดยังไม่ถูกแกะไปรับประทาน และถูกวางอยู่บนโต๊ะภายในห้องรับแขก

นอกจากนี้ภายในห้องยังพบถ้วย 6 ใบ ลักษณะเป็นถ้วยชา กาแฟ วางอยู่ 6 แก้ว ถูกดื่มจนหมดทุกแก้ว และมีเศษบางอย่างอยู่บริเวณก้นแก้ว ในห้องน้ำยังพบกระปุกชา ลักษณะเหมือนเพิ่งซื้อมา น้ำเกลือแร่ 1 ขวด น้ำผึ้ง 1 ขวด ทั้งหมดถูกเปิดใช้แล้ว ซึ่งพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเก็บไปตรวจหาสารพิษ

ไม่พบร่องรอยรื้อค้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายของชาวต่างชาติ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 24 ชั่วโมง

จากการตรวจสอบห้องพักอย่างละเอียด ไม่พบร่องรอยรื้อค้น รวมถึงผู้เสียชีวิตก็ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย แต่มี 1 คน พบบาดแผลบริเวณใบหน้า 1 คน คาดว่าล้มหัวฟาด และมี 2 คน พยายามตะเกียกตะกายมาที่ประตู

ในที่เกิดเหตุยังมีวัตถุต้องสงสัยสองชิ้น เป็นกระบอกน้ำสแตนเลส 2 อัน ซึ่งไม่ใช่วัตถุของทางโรงแรม ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบเครื่องดื่มด้านใน

และจากรูปถ่ายสภาพศพผู้ตาย เล็บมือเล็บเท้า มีลักษณะดำคล้ำแต่อาจเกิดจากสาเหตุการเสียชีวิตมาประมาณ 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องผลชันสูตรอย่างละเอียดจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ค้นหาบุคคลที่ 7 ต้องสงสัย มูลเหตุจูงใจการเสียชีวิตชาวต่างชาติ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติได้มีการบุ๊กกิ้งเข้ามา 7 คน เช็กอินแค่ 5 คน แต่กลับพบผู้เสียชีวิต 6 คน เชื่อว่าหนึ่งในกลุ่มที่กล้องวงจรปิดจับภาพตอนเข้าโรงแรมนั้น ไม่ได้เช็กอิน

ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้สรุปแนวทางที่สอดคล้องกัน ดังนี้ 

• ต้องตรวจตรวจสอบบุคคลที่ 7 ก่อนว่าเดินทางเข้ามาจริงหรือไม่ 
• เก็บรายละเอียดทั้งหมดของบุคคลทั้ง 6 คน ผ่านทางสถานทูตและข้อมูลโซเชียลต่างๆ ที่ลงทะเบียนไว้ 
• หากบุคคลที่ 7 ไม่มี ต้องหามูลเหตุจูงใจในครั้งนี้ต่อไป

ส่วนกระเป๋าทั้งหมดที่อยู่ในห้อง ได้ประสานไปทางสถานทูต ตำรวจนครบาล 5 ไปทำการพิสูจน์ร่วมกัน ว่าในกระเป๋ามีอะไรเป็นวัตถุพยานหรือพยานหลักฐานในครั้งนี้ได้ หรือบ่งบอกว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้อง

ข้อสรุปตอนนี้คือทั้งหมดไม่ได้ทำร้ายตัวเอง แต่ถูกคนอื่นทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามได้ประสานสถานทูตตรวจสอบว่า ผู้เสียชีวิตทำอาชีพอะไรและมีจุดประสงค์อะไรในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย พร้อมสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟอาหารว่า เห็นความผิดปกติไม่

"เราไม่ได้ตั้งประเด็นว่าเขาถูกวางยา แต่มีบุคคลคนหนึ่งที่ประสงค์ต่อชีวิตร่างกาย แต่ด้วยวิธีการใด นิติวิทยาศาสตร์จะเป็นคนบอก พร้อมด้วยพยานหลักฐานมาเชื่อมโยงกัน หากสอดคล้องกันก็จะตอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ยืนยันว่าไม่มีการประทุษร้าย" พล.ต.ท.ธิติ กล่าว 

 

 

เปิดข้อมูลต่างชาติ 6 ราย เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย

• Ms. SHERINE CHONG อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน เข้าล่าสุด 05/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.30 อนุญาตถึง 03/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 5 ครั้ง
• Mr. HUNG DANG VAN อายุ 55 ปี สัญชาติอเมริกัน เข้าล่าสุด 07/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.30 อนุญาตถึง 05/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 1 ครั้ง
• Ms. THI NGUYEN PHUONG LAN อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม เข้าล่าสุด 04/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.ผ.30 อนุญาตถึง 02/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 17 ครั้ง
• Mr. HONG PHAM THANH อายุ 49 ปี สัญชาติเวียดนาม เข้าล่าสุด 12/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.ผ.30 อนุญาตถึง 10/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 1 ครั้ง
• Mr. DINH TRAN PHU อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม เข้าล่าสุด 12/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.ผ.30 อนุญาตถึง 10/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 11 ครั้ง
• Ms. THI NGUYEN PHUONG อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม เข้าล่าสุด 12/07/2024 ด่าน ทอ.สุวรรณภูมิ วีซ่า ผ.ผ.30 อนุญาตถึง 10/08/2024 เดินทางเข้า-ออก 3 ครั้ง

 

 

ไทม์ไลน์เข้าพักโรงแรมหรู ย่านราชประสงค์ ห้องพักชั้น 5 วันที่ 15 กรกฎาคม 2567

• เวลา 10.14 น. มีเด็กรับผ้าเข้ามาที่ห้อง ก่อนจะเดินออกไปภายใน 1 นาที ต่อมา 11.20 น. เด็กรับผ้าเอาเสื้อคลุมมาส่ง และออกจากห้องไปทันที
• เวลา 12.00 น. Mr. Tran dinh phu เดินออกมาจาก ถือถุงพลาสติกสีขาว
• เวลา 13.01-13.40 น. พนักงานเข้าทำความสะอาดห้องชั้น 5 จำนวน 2 ห้อง
• เวลา 13.52 น. Room service 2 คน นำอาหารมาเสิร์ฟ และออกจากห้องไป เวลา 13.58 น.
• เวลา 14.04-14.09 น. Mrs. Thi nguyen phuong, MR. Pham hong thanh, Mrs. Thi nguyen thuong lan, Mr. Hung dang van ถือกระเป๋าเดินเข้าไปในห้อง
• เวลา 14.11 น. Mrs.sherine chong/Mrs. Thi nguyen/Mr. Hong pham thanh/ Mr. Hung dang van เดินออกมาจากห้อง ส่วน Mrs. Thi nguyen phuong lan อยู่ในห้องคนเดียว
• เวลา 14.17 ทั้งหมดกลับมาที่ห้อง ชั้น 5 และไม่มีใครออกมาอีกเลย