โอลิมปิก ปารีส 2024
โอลิมปิกครั้งนี้ เจ้าภาพได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งการจัดการตั๋ว การสื่อสารกับผู้เข้าชม การให้ข้อมูลเรื่องสนามแข่งขันและโปรแกรมแข่งขัน วิธีการเดินทางไปสนามแข่งขัน และจะใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอภาพต่างๆ ทั้งในรูปแบบ AR และ VR เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชม
การแข่งกีฬาโอลิมปิกซึ่งเป็น มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติได้เริ่มขึ้นแล้วในวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา จริงๆแล้ว การแข่งขันเริ่มตั้งแต่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 โดยมีกีฬาฟุตบอลและรักบี้แข่งก่อน และยิงธนู กับแฮนด์บอล ก็เริ่มแข่งในวันที่ 25 กรกฎาคม
โอลิมปิกที่ปารีส ไม่ได้จัดมา 100 ปี โดยจัดครั้งที่แล้วเมื่อปี ค.ศ.1924 และก่อนหน้านั้น เป็นเจ้าภาพจัดในปี 1900 เรียกได้ว่าเป็นเวลานานมากแล้ว
คราวนี้พิเศษอย่างไร ต้องเรียนว่า หากถามนักกีฬา ใครๆก็อยากไปฝรั่งเศส และปารีส ซึ่งเป็นประเทศแห่งสีสัน แฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นประเทศที่มีความสวยงามทั้งในด้านภูมิประเทศ สิ่งก่อสร้าง และที่สำคัญคือ คนฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่าพิถีพิถันเรื่องการรับประทาน และมีวัฒนธรรมอาหารที่ดีที่สุดในโลก มาเป็นเวลายาวนาน
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน (All Time) ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีผู้คนไปเยือนมากที่สุดในโลก โดยข้อมูลจาก Data Panda คาดว่าในปี ค.ศ.2024 ฝรั่งเศสจะมีผู้ไปเยือน 89.4 ล้านคน ตามมาด้วยสเปน 83.7 ล้านคน และสหรัฐอเมริกา 79.3 ล้านคน ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 8 ค่ะ คาดว่าจะมีผู้มาเยือนในปีนี้ 39.8 ล้านคน
เมื่อคบเพลิงโอลิมปิกถูกจุดขึ้นในวันที่ 16 เมษายน ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ นำไปเวียนรอบประเทศกรีซ แล้วส่งมอบให้กับฝรั่งเศสในวันที่ 26 เมษายน โดยฝรั่งเศสนำคบเพลิงโอลิมปิกลงเรือข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไปขึ้นบกที่เมืองมาร์เซย (Marseille) เมืองท่าชื่อดังทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และนำเวียนไปทั่วฝรั่งเศสจนมาถึงปารีสในวันชาติ คือ 14 กรกฎาคม หลังจากนั้นจึงเวียนรอบๆกรุงปารีสจนถึงการใช้ในพิธีเปิดวันที่ 26 กรกฎาคม
แต่ละจุดที่คบเพลิงผ่าน ก็จะเห็นการต้อนรับคบเพลิง และผู้ชมก็จะเห็นวิวทิวทัศน์สวยๆของประเทศฝรั่งเศสในฤดูใบไม้ผลิต่อถึงฤดูร้อน ถือเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
สำหรับพิธีเปิด เพื่อไม่ให้เสียชื่อประเทศผู้มีความคิดสร้างสรรค์สูง จึงใช้วิธีการในนักกีฬาของแต่ละประเทศล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน และผู้ชมซื้อบัตรนั่งชมตามสะพานต่างๆที่เรือแล่นผ่าน และอัฒจันทร์บนฝั่งแม่น้ำ ดิฉันก็ถูกเชิญชวนให้ซื้อบัตรเข้าชมพิธีเปิด เพิ่งทราบว่าราคาตั้งแต่ 3,600 บาท จนถึงสูงสุด 108,000 บาท แต่ตอนมาเสนอขาย เสนอแต่อันแพงสุดค่ะ เลยไม่ได้สนใจ
โอลิมปิกครั้งนี้ ใช้งบประมาณไปประมาณ 6,800 ล้านยูโร (ประมาณ 272,000 ล้านบาท น้อยกว่าดิจิทัลวอลเล็ตของไทยเกือบครึ่งหนึ่ง) เจ้าภาพตั้งใจจะเน้นความยั่งยืน โดยใช้สนามกีฬาที่มีอยู่แล้ว หรือพื้นที่ในเมืองที่มีอยู่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะทิ้งร่องรอยคาร์บอนให้น้อยที่สุด เหรียญรางวัลออกแบบได้สวย และใช้วัสดุโลหะจากชิ้นส่วนของหอไอเฟลที่เก็บเอาไว้ตอนรื้อซ่อมแซม นักกีฬาจะได้ความทรงจำและของที่ระลึกที่มีประวัติศาสตร์ค่ะ และมีการจัดกีฬาทางทะเลและกีฬาที่เล่นในเมือง เช่น สเก็ตบอร์ด และมีกีฬา Breaking (เบรคดานซ์) พยายามให้ทุกคนมีส่วนร่วม (Inclusive) ทุกรายการมีทั้งหญิงและชาย และยังมีการจัดรายการทางวัฒนธรรมไปทั่วทั้งเมือง
กีฬาต่างๆส่วนใหญ่เริ่มในสัปดาห์แรก โดยวันที่ 26 ซึ่งเป็นพิธีเปิด จะไม่มีการแข่งขันกีฬาอื่น ยกเว้นยิงปืน และกีฬาอื่นส่วนใหญ่ เริ่มแข่งวันที่ 27 กรกฎาคม คือ ยิมนาสติก แบดมินตัน บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอลชายหาด (จะแข่งบริเวณหอไอเฟล!) มวย แคนูสลาลม จักรยานถนน ว่ายน้ำ กระโดดน้ำ ขี่ม้า ฟันดาบ ฮอกกี้ ยูโด เรือกรรเชียง เทเบิลเทนนิส เทนนิส วอลเลย์บอล โปโลน้ำ เซิร์ฟ ว่ายน้ำ สเกตบอร์ด
ส่วนเรือใบ แข่งวันที่ 28 จักรยานภูเขา แข่ง 28-29 ไตรกีฬา และบาส 3x3 แข่งวันที่ 30 จักรยาน BMX เริ่มแข่ง 30 กรีฑา และกอล์ฟ เริ่มวันที่ 1 สิงหาคม แทรมโพลีนแข่งวันที่ 2 มวยปล้ำ และระบำใต้น้ำ แข่งวันที่ 5 แคนูสปรินท์ แข่งวันที่ 6 ยกน้ำหนัก และเทควันโด แข่งวันที่ 7 ปัญจกีฬาสมัยใหม่เริ่มวันที่ 8 และเบรกดานซ์เริ่มแข่งวันที่ 9
เขียนมาเผื่อท่านผู้อ่านจะนำไปเป็นคู่มือติดตามรับชม และเชียร์นักกีฬาทั้ง 51 คนของไทยในรายการที่พิมพ์ตัวเข้มค่ะ
โอลิมปิกครั้งนี้ เจ้าภาพได้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งการจัดการตั๋ว การสื่อสารกับผู้เข้าชม การให้ข้อมูลเรื่องสนามแข่งขันและโปรแกรมแข่งขัน วิธีการเดินทางไปสนามแข่งขัน และจะใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอภาพต่างๆ ทั้งในรูปแบบ AR และ VR เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมค่ะ ทั้งนี้ผู้เข้าชมมีแอพที่ต้องดาวน์โหลด อย่างน้อย 3 แอพ คือ PARIS 2024 Tickets, PARIS 2024 Transport Public, PARIS 2024 Official Program
ตั๋วเข้าชมเป็น e-Ticket หมด วิธีการจองตั๋วก็คล้ายๆกับโอลิมปิกที่โตเกียว คือคนที่จะจองตั๋วได้ต้องส่งชื่อไปลงทะเบียนเพื่อจับสลากได้สิทธิ์จองก่อน โดยชื่อที่ส่งไปนั้นส่งตั้งแต่สองปีที่แล้วคือในปี 2022 และการเปิดให้จองตั๋ว เปิดในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เปิดเพียงสามวัน ตั๋วเข้าชมรายการยอดนิยม เช่น ยิมนาสติก ว่ายน้ำ เทนนิส หมดเร็วมากค่ะ โดยต้องจ่ายเงินทันทีหลังจองได้
การขายบัตรของฝรั่งเศสเป็นแบบทุนนิยมเต็มที่ คือหากซื้อตั๋วปกติไม่ได้ แต่อยากชมรายการยอดฮิต เขาจะมีมาโฆษณาขายเป็นระยะๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของปี 2023 คือหนึ่งปีก่อนการแข่งขัน แต่เป็นการขายแบบแพคเกจ คือรวมอาหารเลี้ยงรับรองด้วย แต่มีบางสถานที่เท่านั้นที่มีการเลี้ยงรับรองในสนามแข่ง ส่วนใหญ่การเลี้ยงรับรองจะอยู่นอกสถานที่ ผู้ซื้อบัตรจะไปตอนไหนก็ได้ในช่วงเวลาของการจัดการแข่งขันโอลิมปิก และแน่นอนว่าราคาสูงมาก ราคาที่เห็นใบละประมาณ 650 ยูโร (ประมาณ 26,000 บาท)
ซื้อตั๋วได้แล้ว เขาให้รอจนถึง วันที่ 6 พฤษภาคม 2024 จึงมี email ส่งมาให้กดแอพ PARIS 2024 Tickets เพื่อรับตั๋วเข้าชมกีฬาของเรา โดยตั๋วก็เป็น e-Tickets ถ้าต้องการรับตั๋วที่ระลึก มีค่าใช้จ่ายใบละ 2.99 ยูโร (120 บาท) จะรับก็ได้ไม่รับก็ได้ เพราะเป็นเพียงตั๋วที่ระลึกใช้เข้างานไม่ได้ ตั๋วจริงอยู่ในแอพเท่านั้น เพราะฉะนั้น ใครไม่มีสมาร์ทโฟนก็ไปชมโอลิมปิกไม่ได้
ตั๋วที่ซื้อสามารถโอนได้ เช่น เราซื้อ 4 ใบ สามารถโอนอีกสามใบให้เพื่อนที่จะไปด้วยกัน หรือหากไม่สามารถไปร่วมชมได้ ก็สามารถขายต่อได้ผ่านเว็ปทางการของเขาเช่นกัน เขาแจ้งด้วยว่า การซื้อขายตั๋วนอกเว็ปเป็นการผิดกฎหมาย
ต่างกับ Tokyo 2020 ซึ่งตั๋วสำหรับผู้ชมต่างชาติจะจำหน่ายผ่านตัวแทนที่แต่งตั้งในแต่ละประเทศ และที่ขายในไทย จะมาเป็นแพคเกจพร้อมที่พักที่เขาจัดให้ เพราะกลัวที่พักไม่พอ หรือกลัวผู้ประกอบธุรกิจค้ากำไรเกินควร และเราก็ต้องลงทะเบียนผู้ชมพร้อมรายละเอียดพาสปอร์ตตั้งแต่ก่อนเปิดจองตั๋วเลยค่ะ และห้ามเปลี่ยนแปลงด้วย มีเวลาให้จองไม่นาน และกีฬายอดฮิตก็หมดเร็วเช่นกัน
เขียนไปเขียนมาพื้นที่หมดแล้ว ในครั้งนี้ดิฉันเองก็จะไปสังเกตการณ์ในสัปดาห์ที่สอง และจะรายงานมาก่อนพิธีปิดการแข่งขันค่ะ รออ่านในอีกสองสัปดาห์นะคะ