อัปเดต ฝนถล่มเมืองกาญจน์ น้ำป่าหลากท่วม 3 อ. เตือนระดับน้ำ 'แควน้อย' เพิ่มสูง
อัปเดต น้ำท่วมกาญจนบุรี น้ำป่าหลากท่วม 3 อำเภอ สทนช. เตือนจับตาฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ-ตะวันตก ช่วง 27-29 ก.ค.นี้
วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วม จ.กาญจนบุรี เผย เขื่อนวชิราลงกรณ ช่วยหน่วงน้ำหลากที่ไหลเข้าท่วมชุมชนและพื้นที่การเกษตร พร้อมบูรณาการหน่วยงานเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก ในช่วงวันที่ 27 - 29 กรกฎาคมนี้
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักสะสมช่วงวันที่ 25 - 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและด้านตะวันตกของภาคเหนือ
ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและด้านตะวันตกของภาคกลางยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะที่ จ.กาญจนบุรี สามารถวัดปริมาณฝนได้ 117 มิลลิเมตร (มม.) ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี และ อ.ไทรโยค โดยเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี ช่วงบริเวณหน้าหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 11 (นพค. 11) ม.3 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัด อำเภอ ผู้นำท้องถิ่น กรมทางหลวง หน่วยทหาร และประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเปิดทางน้ำและสกัดเจาะช่องแบริเออร์บริเวณบาทวิถี ให้สามารถบังคับน้ำให้ไหลออกบริเวณด้านข้าง จำนวน 4 จุด ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังสามารถไหลลงสู่ลำห้วยอู่ล่องได้สะดวกและคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ น้ำป่าจาก อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี และ อ.ไทรโยค ได้ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณสะพานแขวน ท่าน้ำปากแซง หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ระดับน้ำขึ้นสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านบริเวณพื้นที่ติดริมฝั่งลำน้ำแม่น้ำน้อย ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค และหมู่ที่ 2 , 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่และช่วยชาวบ้านยกของขึ้นที่สูง พร้อมเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อประเมินสถานการณ์และจัดเตรียมสนับสนุนในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของ จ.กาญจนบุรี ได้คลี่คลายลงแล้ว ซึ่ง เขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำการงดการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ทำให้ไม่ซ้ำเติมพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมดังกล่าว อีกทั้งเขื่อนยังช่วยหน่วงน้ำที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร สามารถลดพื้นที่ประสบอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับสถานการณ์ฝนตกหนักที่ผ่านมา ทำให้ เขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 5,527 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 62% ของปริมาณน้ำกักเก็บ โดยจะเร่งกักเก็บน้ำเพื่อสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ ที่เป็นไปตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567
ทั้งนี้ สทนช. จะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในช่วง 3 วันนี้ คือช่วงวันที่ 27 - 29 กรกฎาคม 2567 จะมีปริมาณฝนมากกว่า 200 มม. ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก ได้แก่ อ.เมืองตราด จ.ตราด , อ.ท่าสองยาง อ.แม่สอด อ.อุ้มผาง อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก , อ.เมืองกาญจนบุรี อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี , อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โดย สทนช.ได้บูรณาการทุกหน่วยงานในการเฝ้าติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัย เพื่อพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที