บุกจับข้าราชการ ยักยอกเงินคลัง 50 ล้าน มีพฤติการณ์หลบหนี
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. บุกจับข้าราชการ รองปลัด ยักยอกเงินคลัง 50 ล้าน มีพฤติการณ์หลบหนี
กรณี เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. บุกจับข้าราชการ ตำแหน่งรองปลัด ยักยอกเงินคลัง 50 ล้าน ตามที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายณัฐวุฒ ขมประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 3 ได้มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 3 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ทำการจับกุมข้าราชการหญิง ระดับรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 67
ข้าราชการหญิง ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 คดียักยอกเงินออกจากคลัง อบต. รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้ ข้าราชการหญิงรายนี้ไหวตัวและมีพฤติการณ์หลบหนี
โดยใช้วิธีการนำบัตรประชาชน และเอกสารหลักฐานแสดงตัวตนของพี่สะใภ้ มาอำพรางตนเอง ก่อนจะไปสมัครทำงาน “หนีซุกปีก” ทนายความคนดังรายหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ทำหน้าที่เป็นเสมียนทนายและเลขาคนสนิท
เหตุบังเอิญที่ทนายความคนดังรายนี้ รับว่าความทำคดีให้กับผู้ถูกกล่าวหารายหนึ่งในเขตจังหวัดนครราชสีมา จึงมีความจำเป็นที่ทนายความคนดัง พร้อมเลขาคนสนิทรายดังกล่าว ต้องเดินทางมายัง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3
เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 ได้ดำเนินการแกะรอยและตรวจสอบข้อเท็จจริง จนกระทั่งยืนยันแล้วว่า “เลขาคนสนิทรายดังกล่าวนี้” คือ บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จริง แม้จะทำทรงผม แต่งหน้าให้มีลักษณะเหมือนพี่สะใภ้ และอ้างตนว่าเป็นพี่สะใภ้
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ซึ่งตอนแรกให้การปฏิเสธว่าตนไม่ใช่บุคคลตามหมายจับ
แต่สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ฯ ก็ได้พูดคุยอธิบาย จนกระทั่ง ผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าวให้การยอมรับว่าตน คือ บุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 จึงได้นำตัวไปทำบันทึกการจับกุม สภ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะนำตัวส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
อ้างอิง - ป.ป.ช.