“เดือนแห่ง Momento de la verdad”
สำหรับประเทศไทย ไม่ว่าที่สนามโอลิมปิก สนามตำรวจ หรือสนามการเมือง เดือนสิงหาคม 2567 นี้ มี “Momento de la verdad” เยอะเลย
วลีภาษาสเปน ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแบบคำต่อคำว่า “Moment of Truth” หรือ “ช่วงเวลาแห่งความจริง” มีที่มาจากสนามสู้วัวกระทิง ครับ
เมื่อมนุษย์เปิดสเตเดี่ยม แล้วเอาวัวกระทิงมาหลอกล่อให้เหน็ดเหนื่อย และทรมานให้บาดเจ็บจนเลือดอาบร่าง แล้วก็จบลงด้วย “Momento de la verdad” หมายถึง จังหวะที่มาทาดอร์ เสียบดาบลงไปที่วัวกระทิงตัวนั้น
ถ้าเสียบดาบเพียงฉับเดียวแล้วเข้าเป้าเผง วัวกระทิงสิ้นลมหายใจเฉียบพลัน ทรุดฮวบลงนิ่งสนิทในทันที ถือว่าเป็นมาทาดอร์ที่เก่งมาก ได้รับเสียงปรบมือโห่ร้อง ยกย่องจากผู้ชมทั่วสนาม
ผมไม่รู้เหมือนกันว่า อย่างนี้เขาเรียกว่าเป็นเกม หรือ กีฬา ได้อย่างไร และการทารุณสัตว์ขนาดนี้ มันสนุกหรือสะใจคนดูตรงไหนผมจึงไม่ประหลาดใจเลย ที่ในระยะ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีกระแสต่อต้านกีฬาสู้วัวกระทิง เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ประเทศที่ได้ออกกฎหมาย ให้ยกเลิกการสู้วัวกระทิงไปแล้ว ก็คืออาร์เจนตินา แคนาดา คิวบา เดนมาร์ก อิตาลี และอังกฤษส่วนประเทศที่ยังถือว่าถูกกฎหมายอยู่ ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส โปรตุเกส เม็กซิโก โคลัมเบีย เวเนซุเอลา เปรู และเอกวาดอร์
แต่แม้กระทั่งในประเทศสเปนเองก็ตาม ถึงแม้จะไม่ผิดกฎหมายของรัฐบาลกลาง แต่รัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่ง ก็ได้ออกกฎหมายยกเลิกการสู้วัวกระทิงไปแล้ว ทำให้สนามสู้วัวกระทิงในประเทศถูกทิ้งร้างเพิ่มขึ้น
ใน “ช่วงเวลาแห่งความจริง” ของการสู้หัวกระทิงนั้น ก็มีเหมือนกันครับที่มาทาดอร์ พลาดเสียเอง คือยังไม่ทันจะเสียบดาบ ก็โดนกระทิงขวิดจนเสียชีวิตกลางสนาม แบบนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่มันก็เป็น “Moment of Truth” เช่นกัน
สรุปว่า วลีนี้หมายถึง “ช่วงเวลาที่ความจริงปรากฏ” และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้เพื่อสะท้อนเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตของคนทั่วไปก็ได้ หรือ เหตุการณ์ทางธุรกิจ การเมือง และเหตุการณ์ที่สังคมสนใจเป็นพิเศษ ฯลฯ ก็ได้เช่นกัน
เช่น ในชีวิตของคนธรรมดา อาจจะหมายถึงช่วงเวลาแห่งความจริง เมื่อเราตัดสินใจลาออกจากงาน ที่มีเงินเดือนประจำและความมั่นคงในชีวิต เพื่อออกไปประกอบธุรกิจของตนเอง โดยมีความเสี่ยงสูงและยังไม่รู้ว่า อนาคตจะเป็นเช่นใด
หรือในภาคธุรกิจ เวลาที่ลูกค้าพบกับพนักงานของบริษัท แล้วพนักงานหน้าตาบึ้งตึง พูดจาสุนัขไม่รับประทาน ลูกค้าได้สัมผัสกับความจริงที่ปรากฏ เลยตัดสินใจเลิกใช้บริการ ของบริษัทนั้นไปเลย อย่างนี้เป็นต้น
หรือนาทีที่บอร์ดตัดสินใจสำคัญ เช่นเปลี่ยนทิศทางธุรกิจ ถอนการลงทุนในบางประเทศ ควบรวมกิจการ ปลดคนงานนับหมื่นคน หรือปิดกิจการไปเลย อย่างนี้ก็เป็น Moment of Truth เช่นกัน และเมื่อความจริงได้ปรากฏออกมาชัดเจนแล้ว ก็จะมีผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย จำนวนมาก
เพียง 8 วันแรกของเดือนสิงหาคม สังคมไทยเราก็เต็มไปด้วย “ช่วงเวลาแห่งความจริง” ที่ปรากฏ หลากหลายครับนับตั้งแต่ ปรากฏการณ์ดีๆเช่นที่สนามโอลิมปิกนาทีที่น้องเทนนิส วิว ธีรพงศ์ จันทร์แจ่ม และสุรจนา นักกีฬาไทยได้เหรียญทอง เงิน และ ทองแดง นำความสุขมาให้คนไทยทั้งประเทศ
หรือที่สนามตำรวจ เมื่อ ก.พ.ค.ตร. ประกาศคำวินิจฉัยกรณีบิ๊กโจ๊ก ส่งผลให้ บิ๊กโจ๊ก ไม่สามารถกลับมาเป็นแคนดิเดต ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนต่อไปในปลายปีนี้ได้ นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่ความจริงปรากฏและมีผลต่อการพิจารณาเลือกผู้นำตำรวจคนต่อไป
และหมาดๆเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัย ยุบพรรคก้าวไกล ในขณะที่วันพุธหน้า 14 สิงหาคมก็จะมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีจะอยู่ต่อหรือไม่ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์นี้ถือว่า เป็น เรื่องใหญ่ของประเทศที่ผู้คนสนใจ และเมื่อถึงเวลาที่ความจริงปรากฏ ก็จะเกิดผลทางการเมืองที่สำคัญตามมา
ก็ว่ากันไปครับการเมืองบ้านเรามีโมเม้นท์แบบนี้หรือช่วงเวลาแห่งความจริงทำนองนี้ เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว มากบ้าง น้อยบ้าง แต่บางช่วงก็มากหน่อย อย่างเช่นช่วงนี้เป็นต้น
ถ้าเป็นโมเม้นท์ที่เกิดขึ้นตามกฎ กติกา และถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ก็เป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตยทุกประเทศ และจัดการกันไปตามกติกา
เพียงแต่ของเรานั้น บางเรื่องราวทางการเมืองก็มีเบื้องหลังที่มาที่ไป จนทำให้กลายเป็นประเด็นใหม่ๆขึ้นมา และทำให้เสียเวลาในการทำงาน หรือพัฒนาประเทศไปไม่ใช่น้อย เพราะว่าผู้ที่อยู่ในตำแหน่งต่างๆที่เกี่ยวข้อง ต้องมาใช้เวลากับเรื่องเหล่านี้
เรื่องราวที่รัฐสภาและการเมืองไทย คงจะร้อนแรงไปอีกพักใหญ่ครับ หรืออาจจะพลิกไปพลิกมาอีกเรื่อยๆ ทำให้เราต้องคอยติดตาม และได้มีโอกาสสัมผัสกับช่วงเวลาแห่งความจริง หรือ Momento de la verdadอีกหลายระลอก
ผมคิดว่าช่วงนี้ ถ้าเราพักใจทางการเมืองไว้สักนิด แล้วหันไปลุ้น “Moment of Truth” ของนักกีฬาไทย ที่จะพิชิตเหรียญให้มากขึ้น ในสามวันสุดท้ายของกีฬาโอลิมปิก 2024….
จะสบายใจกว่าไหมครับ