สรุปเหตุน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก แม่ฮ่องสอน ปชช.เดือดร้อน 11,436 คน
สรุปสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ 4 อำเภอ จ.แม่ฮ่องสอน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,436 คน ผู้ว่าฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (13 ส.ค. 67) นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมาตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา หลายอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอนจึงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง
โดยขณะนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้วทั้งสิ้น จำนวน 4 อำเภอ 10 ตำบล 30 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 4,189 ครัวเรือน 11,436 คน ซึ่งจะต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพาพี่น้องประชาชนไปยังจุดพักพิงที่ปลอดภัยให้รวดเร็วที่สุด
นายชูชีพ กล่าวต่อว่า ด้วยความเป็นห่วงในความปลอดภัยของพี่น้องชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกคน ตนจึงได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์และบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง พร้อมด้วย นายเรืองฤทธิ์ ผลดี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู ผู้แทนนายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจากการรายงานข้อมูลสถานการณ์อุทกภัยของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง
อำเภอปางมะผ้า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ ตำบลถ้ำลอด หมู่ที่ 1,3,5,6 ตำบลสบป่อง หมู่ที่ 3,6 ตำบลปางมะผ้า หมู่ที่ 1,2,4,5 ตำบลนาปูป้อม หมู่ที่ 1,4,7,9,10 ซึ่งมีน้ำป่าไหลหลาก และมีดินสไลด์เข้าบ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ พื้นที่การเกษตร เครื่องใช้ในครัวเรือน สัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินอื่น ๆ ได้รับความเสียหาย
อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน มีน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยห้วยผา และลำน้ำแม่สะงี ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยผาอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมวลน้ำท่วมบริเวณอาคารที่ทำการ สถานที่ท่องเที่ยว ถนนทางเข้าอุทยาน และจุดบริการนักท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบ
อำเภอขุนยวม มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ ตำบลแม่ยวมน้อย หมู่ที่ 2,3,4,5 ตำบลเมืองปอน หมู่ที่ 2,5,6,8 ซึ่งมีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร สะพานไม้ คอสะพานถูกน้ำป่ากัดเซาะไม่สามารถสัญจรได้
อำเภอแม่ลาน้อย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ ตำบลแม่นาจาง หมู่ที่ 2,3,7 ตำบลขุนแม่ลาน้อย หมู่ที่ 1,5 ตำบลสันติคีรี หมู่ที่ 7 ซึ่งมี น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เบื้องต้น 165 ไร่ น้ำป่าเอ่อล้นตลิ่งท่วมสะพาน ไม่สามารถสัญจรได้
“สำหรับการดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ตนได้สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ทุกส่วนราชการ ของอำเภอที่ได้รับผลกระทบดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน ซึ่งประกอบไปด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอปางมะผ้า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหารในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. และจิตอาสา เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยการขนอุปกรณ์เครื่องใช้ ของราษฎรขึ้นพื้นพื้นที่สูง และขนเศษกิ่งไม้ ต้นไม้ที่ขวางทางน้ำ ตลอดจนจะใช้แพยาง ขนย้ายราษฎรและนักท่องเที่ยว พนักงาน ที่ติดค้างในรีสอร์ท
ในส่วนความเสียหายคอสะพานอยู่ระหว่างการสำรวจ และดำเนินการแก้ไข ฝ่ายปกครอง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยผา และอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จัดเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การช่วยผู้ที่ติดค้างในบริเวณอุทยาน ได้ทั้งหมดแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังน้ำไหลหลากเพิ่มเติม ในส่วนความเสียหายพื้นที่การเกษตร และ สิ่งสาธารณประโยชน์อยู่ระหว่างการสำรวจ ระดับน้ำป่าไหลหลากยังคงอยู่ระดับทรงตัว
และมีแนวโน้มกำลังลดระดับลงแล้ว ฝ่ายปกครอง อ.ขุนยวม ได้สั่งการให้ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้น แล้ว ความเสียหายด้านอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ ฝ่ายปกครอง อ.แม่ลาน้อย ได้สั่งการให้ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเบื้องต้น แล้ว ความเสียหายด้านอื่น ๆ อยู่ระหว่างการสำรวจ” นายชูชีพ กล่าวเพิ่มเติม
นายชูชีพ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้แขวงทางหลวงแม่ฮ่องสอนได้ดำเนินการปิดซ่อมสะพานห้วยผาเส้นทาง 1095 ตอนท่าไคร้ - แม่ฮ่องสอน ที่ กม. 187+439 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 14.00 น. เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเป็นเหตุให้สะพานห้วยผา 3 เกิดการทรุดตัวลงจากเดิม จนอาจเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรได้ จึงขอให้ผู้ใช้ทางเดินทางด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามป้ายเตือนอย่างเคร่งครัดในพื้นที่ที่กำลังซ่อมแซมด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนแนวโน้มสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัจจุบัน สถานการณ์ ยังคงมีกลุ่มฝนตกปกคลุมในพื้นที่ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม และอำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะต้องมีการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากอยู่ตลอดเวลา ในช่วงระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคม 2567 โดยขอเน้นย้ำมอบหมายให้นายอำเภอทุกอำเภอต้องเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง โดยทุกภาคส่วนในจังหวัดจะต้องเตรียมความพร้อม ด้านเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลเพื่อพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ และจะต้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร่งด่วน
"และขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด จนกว่าเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติหรือต้องการขอรับความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอประจำตำบล นายอำเภอ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายชูชีพ กล่าวในช่วงท้าย