ไม่รอด รวบ โมเดลลิ่งเก๊ หลอกพาไปแคสงานก่อนฉกทรัพย์หนี ประวัติก่อเหตุโชกโชน

จับ “โมเดลลิ่งเก๊” หลอกพาไปแคสติ้ง ก่อนแอบฉกทรัพย์ผู้เสียหายและหนีไป คดีนี้สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ได้สืบทราบว่ามีคนร้ายออกก่อเหตุลักทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ชื่อปลอมว่า “เม้าส์, เอกกี้, แทน หรือ บีม” โดยใช้วิธีหลอกผู้เสียหายว่าเป็นโมเดลลิ่ง แล้วทำทีขอเบอร์โทรไว้พูดคุยกับผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ก็จะหลอกพาไปแคสงานเพื่อเข้าวงการ และอาศัยช่วงที่พาผู้เสียหายไปทำผม ฉกเอาทรัพย์สินหนีหายไป 

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายกรีลัลติกาล (สงวนนามสกุล) หรือ เอก อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.979/2567 ลงวันที่ 16 ก.ค. 67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ลักทรัพย์” โดยจับกุมที่บริเวณบ้านเช่า ถ.สุขุมวิท 48/2 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

โดยพฤติการณ์ก่อนก่อเหตุ คนร้ายได้ทำทีเชิญชวนให้ผู้เสียหายมาเเคสงานโฆษณา ซึ่งได้นัดมาในวันที่ 20 พ.ค. 67 โดยให้ไปเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต่อมาได้ชวนผู้เสียหายมาที่ตลาดมีนบุรี โดยอ้างว่ากองถ่ายอยู่ที่หลังตลาดมีนบุรี ต่อมาเวลา 14.30 น. คนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายเข้าไปทำผมที่ร้านภายในตลาดมีนบุรี เมื่อทำผมเสร็จแล้วปรากฏว่าคนร้ายรายนี้ได้หายไป ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบทรัพย์สินที่เก็บใส่กระเป๋าไว้ ก่อนจะพบว่าทรัพย์สินได้หายไป ประกอบด้วย iPad Air 5 สีทอง ราคาประมาณ 23,000 บาท , iPhone สีขาว ราคาประมาณ 20,000 บาท จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้

 

จากการตรวจสอบประวัติในฐานระบบพบคนร้ายรายนี้มีประวัติก่อเหตุคดีลักทรัพย์ ดังนี้

ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.โชคชัย 
ปี 2551 คดีลักทรัพย์ สน.ลุมพินี 
ปี 2556 คดีลักทรัพย์ สภ.พระประแดง 
ปี 2560 คดีลักทรัพย์ สน.ทองหล่อ 
ปี 2565 คดีร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น สภ.เมืองกาฬสินธุ์
ปี 2567 คดีลักทรัพย์ สน.มีนบุรี (คดีล่าสุดที่ถูกจับนี้)

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ได้เจอผู้โดยสารที่ป้ายรถเมล์และได้มีการพูดคุยกันทั่วไป โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าตนได้ทำงานที่กองถ่ายและชวนมาลองแคสงาน จากนั้นจึงได้แลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ พอ 2 วันต่อมาผู้ต้องหาได้นัดผู้เสียหายมาเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า และชวนมาทำผมที่ตลาดมีนบุรี ก่อนที่จะไปแคสงาน หลังจากนั้นได้ยืมโทรศัพท์ผู้เสียหายโทรหาเพื่อนและหลังจากนั้นได้อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายทำผมอยู่นำกระเป๋าของผู้เสียหายไป ข้างในมี iPad Air 5 สีทอง ราคาประมาณ 23,000 บาท และ iPhone สีขาว ราคาประมาณ 20,000 บาท จากนั้นได้นำไปขายให้คนเขมรซึ่งรู้จักผ่านเพื่อน ชื่อนายแม (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) แถวบริเวณหัวลำโพง โดยได้เงินมา 16,000 บาท และเอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาได้ก่อคดีลักทรัพย์โดยใช้แผนประทุษกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทุกครั้งหลังจากถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำเพื่อหาเงินมาตั้งตัว จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้ฝากเตือนภัยไปยังประชาชน ปัจจุบันมิจฉาชีพมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขอให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของโมเดลลิ่งให้รอบคอบ อย่าเชื่อใจคนง่าย เพราะถ้าพลาดไปอาจจะลวงไปลักทรัพย์ หรือล่วงละเมิดถูกแบล็กเมล์ และขอแจ้งประชาชนหากท่านเคยตกเป็นผู้เสียหายของผู้ต้องหารายนี้ ขอให้รีบแจ้งร้อยเวรของท่าน ทำการอายัดตัวโดยเร็ว ที่ สน.มีนบุรี

อ้างอิง - สืบนครบาล