แจ้งด่วน 7 จังหวัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือน้ำเหนือระบายเพิ่มสูงขึ้น
แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา แจ้งด่วน 7 จังหวัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รับมือน้ำเหนือระบายเพิ่มสูงขึ้น
วันนี้ นายวัชระ ไกรสัย ผู้อํานวยการสํานักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ประกาศเรื่อง แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 3/2567
แจ้งถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี
ตามประกาศ สํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ด้วยสํานักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยง น้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า มีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 24 ถึง 30 สิงหาคม 2567 นั้น
น้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ยังมีฝนตกจากตอนบนและฝนตกในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทําให้มีปริมาณ ในอัตราเพิ่มมากขึ้น
โดยข้อมูล วันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 704 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาทําให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น อยู่ที่ระดับ - +15.63 ม.รทก. ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะรักษา ระดับน้ำเหนือเขื่อนไม่ให้เกินระดับ +16.50 ม.รทก.
และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ําไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500 ถึง 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อําเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณ ตําบลบ้านกระทุ่ม ตําาบลหัวเวียง อําเภอเสนา และตําบลท่าดินแดง อําเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 1.00 ถึง 1.20 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวยังคงอยู่ในตลิ่งลําน้ำ
ทั้งนี้ สํานักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณ การระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมิให้มีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน เขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ สํานักงานชลประทานที่ 12 จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จังหวัดประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบ กิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัย อยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด