กทม. พร้อมรับมือน้ำเหนือ เสริมกระสอบทรายคันกั้นน้ำสูงกว่าระดับน้ำท่วมปี 54
กทม. เตรียมพร้อมรับมือ น้ำเหนือหลาก เกาะติดระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมกระสอบทรายคันกั้นน้ำสูงกว่าระดับน้ำท่วมใหญ่ปี 54 คาดอีก 6 วันมาถึง
อัปเดต น้ำท่วม 2567 กทม. เตรียมพร้อมรับมือ สถานการณ์น้ำเหนือ ล่าสุดวันนี้ (24 ส.ค. 67) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศุภมิตร ลายทอง รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และนายนิพนธ์ ศรีเรือง ผู้อำนวยการกองระบบคลอง สำนักการระบายน้ำ ติดตามความพร้อมในการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเหนือไหลหลาก โดยล่องเรือจากท่าเรือใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ข้ามไปยังวัดระฆังโฆสิตาราม ล่องไปทางเหนือสุดเขต กทม. พื้นที่เขตบางพลัด ซึ่งมีแนวเขื่อนบริเวณวัดวิมุตยารามที่กรุงเทพมหานครดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว และล่องกลับมาจบในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์
รอง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขอพี่น้องประชาชนอย่ากังวล เพราะกรุงเทพมหานครได้มีการติดตามใกล้ชิดตลอดเวลาว่าน้ำเหนือที่จะไหลเข้ามาผ่านแต่ละจุดเป็นอย่างไร เราจะมีการแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ซึ่งวันนี้ระดับน้ำที่จุดบางไทร จ.อยุธยา ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล แต่เราก็ไม่ประมาท โดยเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงต่างๆ เป็นอย่างไร
ทั้งนี้ น้ำจากน่านที่จะไหลเข้ามาถึง กทม. จะใช้เวลาประมาณ 6 วัน จึงทำให้พอรู้ล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 2 วัน เมื่อน้ำจากบางไทรจะมาถึงกรุงเทพฯ นอกจากนี้ตนยังได้ใช้กระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นจากแนวเดิม โดยใช้ฐานจากปี 54 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ส่วนจุดที่มีปัญหารั่วซึมหรือเป็นแนวของท่าเรือจะต้องแก้ปัญหาโดยการใช้กระสอบทรายเสริมกั้นเพื่อไม่ให้น้ำล้นเข้ามา อย่างไรก็ตามฝากเตือนให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คอยเฝ้าระวังในช่วงที่จะมีน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือไหลเข้ามา และขอให้ติดตามข่าวสารการแจ้งเตือนด้วย
ด้วยปัจจุบันพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และอาจส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กทม.ได้มีการติดตามสถานการณ์และประสานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อยู่เป็นประจำ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานครได้
สำหรับ สถานการณ์น้ำเหนือ วันนี้ (24 ส.ค. 67) มีปริมาณน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 499 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 450 ลบ.ม./วินาที) และมีปริมาณน้ำผ่านจุดวัดน้ำบางไทร 707 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 576 ลบ.ม./วินาที) ซึ่งปริมาณน้ำผ่านจุดวัดน้ำบางไทรที่กรุงเทพมหานครต้องเฝ้าระวัง คือ 2,500 ลบ.ม./วินาที ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวานนี้ ระดับน้ำสูงสุดที่จุดวัดน้ำปากคลองตลาด สูงประมาณ +1.50 ม.รทก. จากอิทธิพลน้ำทะเลหนุนสูง (ระดับคันกั้นน้ำ +3.00 ม.รทก.) ไม่กระทบต่อแนวพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพมหานคร
สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานเขตที่มีชุมชนอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หรือชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและเตรียมการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าและปลั๊กไฟ พร้อมทั้งให้สำนักงานเขตตรวจสอบการเรียงกระสอบทรายให้มีความสูงเพียงพอและมีความแข็งแรงสามารถป้องกันน้ำได้ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น การจัดทำคันกั้นน้ำชั่วคราวด้วยกระสอบทราย การทำสะพานทางเดินชั่วคราว การให้ความช่วยเหลือประชาชนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ตลอดจนแจกจ่ายยารักษาโรค พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำรับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งน้ำเหนือ และน้ำหนุน
พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังตามจุดอ่อนหรือจุดเสี่ยงน้ำท่วม รวมทั้งได้จัดเตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็ว เตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขและช่วยเหลือได้ในทันทีตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำและเข้าตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง ในช่วงที่มีระดับน้ำขึ้นสูง
ส่วนของแนวป้องกันตนเองบางแห่งที่มีระดับคันกั้นน้ำต่ำและไม่มีความมั่นคงแข็งแรง หรือแนวฟันหลอ กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการเรียงกระสอบทรายเพื่อเสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำและเสริมความมั่งคงแข็งแรงเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง โดยได้เรียงแนวกระสอบทรายแล้วเสร็จ มีความสูงตั้งแต่ +2.40 ถึง + 2.70 ม.รทก. พร้อมทั้งตรวจสอบเตรียมความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา กรณีที่มีน้ำรั่วเข้ามาจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะใช้สถานีสูบน้ำในคลองตามแนวริมแม่น้ำสูบเร่งระบายออก
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตรวจสอบความสมบูรณ์ของแนวคันกั้นน้ำพระราชดำริด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันแนวคันกั้นน้ำพระราชดำริมีความสมบูรณ์ ประตูระบายน้ำสามารถใช้การได้ทุกแห่ง
ทั้งนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาสามารถติดตามสถานการณ์น้ำ รวมถึงช่องทางการแจ้งเหตุเดือดร้อนและขอรับความช่วยเหลือจาก กทม. ได้ที่ http://dds.bangkok.go.th/ , www.prbangkok.com , Facebook : @BKK.BEST , สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter : @BKK_BEST , สำนักงานประชาสัมพันธ์ และแจ้งเหตุน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ โทร 1555 หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำ โทร 0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue)