ฟันกำไรอื้อ รายได้ 3 หมื่นต่อไร่ 'ปลูกทุเรียน' แบบนี้ รวยไม่รู้เรื่องยั่งยืน

บอกต่อ เขารู้จริงการทำเกษตร รวยเศรษฐี ฟันกำไรอื้อ รายได้ 3 หมื่นต่อไร่ กรณีปลูกทุเรียน แบบนี้ รวยไม่รู้เรื่องอย่างยั่งยืน กรมวิชาการเกษตร การันตี

การพัฒนาแปลงเรียนรู้การผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืน ที่ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีเป้าหมายพัฒนาแปลงเรียนรู้การผลิตทุเรียน โดยใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร

1. ขยายผลองค์ความรู้สู่เกษตรกรในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการผลิต
2. เกษตรกรนำองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนเอง
3. โดยเฉพาะพื้นที่ประสบปัญหาดินขาดความอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินอยู่ในระดับไม่ถึงเกณฑ์ การจัดการธาตุอาหารที่ไม่เหมาะสม
4. การใช้สารเคมีไม่ถูกต้อง ทำให้กระบวนการผลิตทุเรียนไม่มีประสิทธิภาพ
5. การระบาดของโรครากเน่าโคนเน่าซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ต้นทุเรียนยืนต้นตาย ส่งผลให้เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทุกปี

นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้ขับเคลื่อนการดำเนินงานของโครงการพัฒนาแปลงเรียนรู้การผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืน ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี

สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร หรือ สวพ.6 ได้เข้าไปดำเนินการพัฒนาแปลงเรียนรู้ การผลิตทุเรียน ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาไม้ผลตามพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี โดยคัดเลือกแปลงทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองพื้นที่ 24 ไร่ 289 ต้น ภายในศูนย์พัฒนาไม้ผลฯ เพื่อพัฒนาเป็นแปลงเรียนรู้  

เนื่องจากทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ และมีต้นทุนสูง  โดยได้ทำการวิเคราะห์พื้นที่และประเด็นปัญหาการผลิตทุเรียนของศูนย์พัฒนาไม้ผลฯ เน้นการนำเทคโนโลยีแนะนำของกรมวิชาการเกษตร ได้แก่

• การผลิตและการใช้ปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ  
• การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินสำหรับไม้ผล
• การหมุนเวียนกลุ่มสารเคมี
• เทคโนโลยีผสมผสานการป้องกันกำจัดโรครากเน่าโคนเน่าทุเรียนมาปรับใช้ในการผลิตทุเรียน 
• พัฒนาให้เป็นแปลงเรียนรู้การผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืนสำหรับเกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาดูงาน
• ขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม  สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้างต้นคำธิบายจาก นายสุภาพ สมบัวคู เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร (สวพ.6)

คำแนะนำสำหรับการผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืน

1. การปรับปรุงบำรุงดินและการจัดการธาตุอาหารพืชสำหรับทุเรียน ด้วยการใส่ปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศ อัตรา 40 กิโลกรัม/ต้นหลังเก็บเกี่ยว
2. ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน  สามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยอินทรีย์ได้ ร้อยละ 64.70 และค่าปุ๋ยเคมีลดลงร้อยละ 38.80 ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณอินทรียวัตถุเพิ่มมากขึ้น
3. การควบคุมโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนด้วยวิธีผสมผสานโดยการใช้วิธีเขตกรรม การใช้ชีวภัณฑ์ไตรโคเดอร์มาปล่อยไปกับระบบการให้น้ำ ทุก 2 เดือน
4. ร่วมกับการรักษาแผลที่ลำต้นด้วยการทาน้ำสกัดเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมี และใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตามคำแนะนำ  
5. หากสำรวจพบโรคที่ผล 1 ผลต่อต้น ให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมี
   - เมทาแลกซิล 25% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
   - หรือ ฟอสอีทิลอะลูมิเนียม 80%WP อัตรา 50-80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
   - หรือ เมทาแลกซิลผสมแมนโคเซบ 62 % WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
   - หรือ ฟอสฟอนิก แอซิด (ฟอสฟอรัส แอซิค หรือ กรดฟอสฟอรัส) อัตรา 50-100 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร
6. โดยพ่นให้ทั่วทรงพุ่ม 1-2 ครั้ง ในช่วง 1 เดือนก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต และพ่นครั้งสุดท้ายก่อนการเก็บผลผลิตไม่น้อยกว่า 20 วัน พร้อมกับหมั่นสำรวจตรวจดูโรคและแมลงศัตรูพืชสม่ำเสมอ อย่างน้อยควรสำรวจทุก 1 เดือน

กำไรอื้อ รายได้ 3 หมื่นต่อไร่ เมื่อปลูกทุเรียนแบบนี้ 

จากการคำนวณผลผลิต ต้นทุน รายได้ และรายได้สุทธิ พบว่า การนำเทคโนโลยีการผลิตของกรมวิชาการเกษตรมาปรับใช้ในการผลิตทุเรียนในแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์พัฒนาไม้ผล

• มีต้นทุน 9,625 บาทต่อไร่
• รายได้ 39,551 บาทต่อไร่
• ทำให้มีรายได้สุทธิ 29,926 บาทต่อไร่  

ส่วนการผลิตทุเรียนด้วยกรรมวิธีเดิม ภายในศูนย์พัฒนาไม้ผล 

• มีต้นทุน 15,042 บาทต่อไร่
• รายได้ 28,372 บาทต่อไร่  
• ทำให้มีรายได้สุทธิ 13,330 บาทต่อไร่  

โครงการพัฒนาแปลงเรียนรู้การผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืน ภายในศูนย์พัฒนาไม้ผลนี้ ถูกสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเกษตรกรด้านการผลิตไม้ผลคุณภาพ ช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรีให้มีศักยภาพในการผลิตทุเรียนคุณภาพเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นแปลงต้นแบบให้กับเกษตรกรในภูมิภาคอื่น ๆ

สำหรับเกษตรกร และผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี เบอร์โทรศัพท์ 039 397 134

อ้างอิง - กรมวิชาการเกษตร