ขโมยเงินเพื่อนสนิทเข้าห้องน้ำ แอบฉกเงินแสน ตามจับถึงกาญจนบุรี

ขโมยเงินเพื่อนสนิทเข้าห้องน้ำ แอบฉกเงินแสน ตามจับถึงกาญจนบุรี

เพื่อนรักหักเหลี่ยม ขโมยเงินเพื่อนสนิทเข้าห้องน้ำ แอบฉกเงินแสน ตำรวจนครบาลตามจับถึงกาญจนบุรี

กรณีเพื่อนรักหักเหลี่ยม ขโมยเงินเพื่อนสนิทเข้าห้องน้ำ แอบฉกเงินแสน เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุม นายจักรี หรือ ต้น อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ 567/2567 ลงวันที่ 3 พ.ย. 2564

ข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" จับกุมหน้าบ้าน หมู่ 6 ต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

พฤติการณ์ที่ทำให้ถูกจับกุม ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหา (นายต้น) และผู้เสียหาย (นนท์) เป็นเพื่อนสนิทกัน และนอนอยู่ห้องเดียวกันมานานแล้ว ได้นั่งดื่มสุราย้อมใจด้วยกัน

เนื่องจาก นายต้นถูกแฟนที่กำลังตั้งท้อง ทิ้งไป เมื่อดื่มไปได้สักพัก นายนนท์ ได้เดินไปเข้าห้องน้ำโดยทิ้งกระเป๋าเงินไว้ ด้วยความเมาประกอบกับนายต้นต้องการหาเงินกลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี

จึงฉวยโอกาสแอบเปิดกระเป๋าเงินดูเพื่อจะหาเงินค่ารถกลับบ้านประมาณ 2-3 พันบาท แต่ปรากฏว่าเปิดกระเป๋าเงินไปพบเงินสดแบงค์พันกว่า 1 แสนบาท จึงหักห้ามใจตัวเองไม่ไหว หยิบมาทั้งหมด

แล้วรีบหลบหนีนั่งแท็กซี่กลับบ้านที่ จ.กาญจนบุรี ปล่อยให้นายนน กลับมาไม่เจอใคร จึงได้ตรวจสอบพบว่าเงินสดจำนวน 122,000 บาท ได้หายไป ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย

ในระหว่างที่ผู้ต้องหา ถูกออกหมายจับนั้น ได้ประกอบอาชีพ รับจ้างทั่วไป จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลายหน่วยงานพยายามตามจับมานานถึง 3 ปี แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เนื่องจากผู้ต้องหามีความชำนาญในพื้นที่ภูมิลำเนาบ้านเกิดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายชุดมาจับกุมตัวก็สามารถหลบหนีได้อยู่เสมอ

หลังจากจับกุมนายนนท์ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา รับว่า หลังจากก่อเหตุตนได้นั่งแท็กซี่กลับบ้าน เป็นเงินประมาณ 3,000 บาท โดยใช้เงินสดที่ลักมาจ่ายโดยไม่เอาเงินทอน แล้วนำเงินที่เหลือไปใช้หนี้อีก 50,000 บาท รวมถึงไปไถ่ถอนจำนำรถจักรยานยนต์อีก 15,000 บาท แล้วใช้เงินที่เหลือจนหมดในเวลาไม่นาน แล้วได้หางานทำดำรงชีวิตเรื่อยมาจนมาถูกจับกุมวันนี้ จากนั้นได้ควบคุมตัวมาที่ สน.อุดมสุข เพื่อทำบันทึกและได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ผลการปฏิบัติโดย

  • พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.
  • พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น.
  • พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น.
  • พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.
  • พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.
    ได้สั่งการให้ชุดจับกุม บก.สส.บช.น ประกอบด้วย
  • พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ, ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.1
  • พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1บก.สส.ฯ
  • ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1
  • ร.ต.ท.อัศวิน มะลัยสิทธิ์ รอง สว.กก.สส.1
  • ด.ต.ศุภวัฒน์ สมัครการ ผบ.หมู่กก.สส.1
  • ด.ต.อติชาติ จรูญศักดิ์ ผบ.หมู่กก.สส.1
  • จ.ส.ต.เอกวุฒิ เชื้อโชติ ผบ.หมู่ กก.สส.1
  • จ.ส.ต.จักรพงษ์ ดวงท้าวเศษ ผบ.หมู่กก.สส.1
  • ร่วมกับนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 ประกอบด้วย
  • ร.ต.อ.ณัฐนนท์ เจียรวนานนท์
  • ร.ต.อ.เทพนรินทร์ จำปามูล
  • ร.ต.อ.ปวริศร หฤรักษ์
  • ร.ต.อ.หญิง ศิราณี บัวพันธ์
  • ร.ต.อ.โสภณวัฒน์ ใจกล้า
  • ร.ต.ท.นนทนันท์ นวนงาม
    ดำเนินการ

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรื่องเงินๆทองๆไม่เข้าใครออกใคร อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน แม้จะเป็นคนในครอบครัว คนรักหรือเพื่อนสนิท ก็ไม่ควรวางใจ ไม่ประมาท ต้องเก็บให้มิดชิด ของหายแล้วจะมานีกเสียดายภายหลัง และฝากเตือนผู้ที่คิดจะขโมยของผู้อื่น

แม้ทรัพย์สินนั้นจะมีค่ามากหรือน้อย ท่านจะโดนคดีข้อหาลักทรัพย์ และไม่ว่าลักทรัพย์ธรรมดาหรือลักทรัพย์เหตุฉกรรจ์ ล้วนเป็นอาญาแผ่นดิน อันไม่อาจยอมความได้ แม้ท่านไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหายชดใช้เงินหรือคืนทรัพย์ไปแล้วก็ตาม