หลอกให้ขายสินค้าออนไลน์ อ้างทำผิดกฎ สูญเงิน 8 แสน ลุบจับบัญชีม้า
ตำรวจจับหนุ่มบัญชีม้า มิจฉาชีพหลอกให้ขายสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บ สุดท้ายอ้างทำผิดกฎ สูญเงินกว่า 8 แสน ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า ได้ค่าจ้าง 20,000 บาท
กรณีหลอกให้ขายสินค้าออนไลน์ อ้างทำผิดกฎ สูญเงิน 8 แสน ลุบจับบัญชีม้า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุมนายวีรภัทร อายุ 33 ปี จับกุมบริเวณ หน้าบ้านพักไม่มีเลขที่ ม.7 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ต้องหาตามหมายจับ
- เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ 577/2567 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน
- ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริต หรือโดยหลอกหลวง
- ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
- เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดแพร่ ที่ จ 578/2567 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน
- ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริต หรือโดยหลอกหลวง
- ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
หลอกให้ขายสินค้าออนไลน์ สูญเงิน 8 แสน
พฤติการณ์ที่เป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ถูกหลอกให้ขายออนไลน์ ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค(ปลอม)
โดยมิจฉาชีพได้แนะนำขั้นตอนและวิธีการสมัครในระบบ เว็บไซต์ และได้ลวงให้ผู้แจ้งโอนเงินไปเป็นค่าต่างๆ เพื่อขายสินค้าในเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งผู้แจ้งได้ทำการโอนเงิน ไปให้กับผู้เสียหายทั้ง 2 ราย รวมจำนวน 20 ครั้ง
ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 12 ครั้ง
ผู้เสียหายที่ 2 จำนวน 8 ครั้ง
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 878,130 บาท ผู้เสียหายที่ 1 จำนวน 834,651 บาท , ผู้เสียหายที่ 2 จำนวน 43,479 บาท
ภายหลังจากโอนเงินไปครั้งสุดท้ายแล้ว เว็บไซต์ดังกล่าว แจ้งว่า ผู้แจ้งได้กระทำการผิดกฎการถอนเงิน ทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และ ได้บอกให้ผู้แจ้งโอนเงินไปเพิ่มอีกจึงจะปลดล็อคได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้แจ้งเชื่อว่าตนถูกหลอกลวง จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ คนร้ายตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุมจากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การว่าตนได้ถูกเพื่อนที่รู้จักกัน ไม่ทราบชื่อสกุลจริง หลอกให้ไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา
และตนก็ได้ตกลงไปทำ โดยมีบุคคลไม่ทราบชื่อมารับที่บ้านของผู้ต้องหาไปส่งจังหวัดสระแก้ว แถวเขตชายแดนและได้มีคนพาข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าต้องไปทำงานอะไร เมื่อไปถึงได้มีคนต่างชาติพาไปที่ตึกแห่งหนึ่งไม่ทราบว่าชื่ออะไร และให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีออนไลน์จำนวนมาก แต่ผู้ต้องหาเปิดได้แค่ 6 บัญชี และได้ค่าจ้างในการเปิดบัญชี บัญชีละ 4,000 บาท
อีกทั้งได้แจ้งว่าได้ค่าเปิดบัญชีมาทั้งหมด จำนวน 20,000 บาท มีหน้าที่ไปพักอาศัย เมื่อถึงเวลาก็ไปสแกนใบหน้าเพื่อทำธุรกรรมทางธนาคารแค่นั้น ผู้ต้องหาคาดว่าเงินที่ผ่านบัญชีของตนมีจำนวนหลายล้านบาท
เมื่อครบจำนวน 15 วัน ก็ได้มีคนพากลับมายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ จนกระทั่งถูกจับตัวในที่สุด จึงทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนประชาชนที่ขายของออนไลน์ในโลกออนไลน์ ปัจจุบันมีมิจฉาชีพใช้มุกว่า สนใจสั่งซื้อสินค้า และก็จะชวนเหยื่อเข้ากลุ่ม หรือเว็บไซต์ที่ทำขึ้นมา เพื่อให้ทำตามขั้นตอนต่าง
โดยจะหลอกให้ได้เงินช่วงแรกๆ แต่พอโอนเงินเยอะขึ้นเรื่อยๆ มิจฉาชีพจะแจ้งว่า ได้กระทำการผิดกฎการถอนเงิน ทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และ ได้บอกให้ผู้แจ้งโอนเงินไปเพิ่มอีกจึงจะปลดล็อคได้ ถ้าหลงเชื่ออีก ก็จะเสียหายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
และขอเตือนผู้ที่จะไปทำงานที่ประเทศเพื่อนโดยนำเงินจำนวนมากมาล่อใจ ขอให้ระมัดระวัง จะโดนหลอกไปทำงานผิดกฎหมาย เปิดบัญชีม้า สุดท้ายท่านจะโดนออกหมายจับ และถูกจับในที่สุด ไม่คุ้มกับเงินที่ได้มาแน่นอน