เอาไว้ไม่ได้! จับ "เจมส์ ทศกัณฐ์" ขังย่ำยีลูกสาว 14 บังคับทำ OnlyFans 7 วัน 7 คืน
ปล่อยไว้ไม่ได้ สืบนครบาล ลุยรวบ "เจมส์-ทศกัณฐ์" พ่อชั่วจับขังย่ำยีลูกสาว 14 ปี บังคับข่มขู่ทำ OnlyFans 7 วัน 7 คืน
.
กรณีพ่อจับขัง ย่ำยีลูกสาว 14 ปี บังคับทำ OnlyFans 7 วัน 7 คืน
คดีสุดสะเทือนใจเมื่อ “พ่อแท้ๆ” จับบุตรสาววัย 14 ปี ขังในบ้านแล้วลงมือกระทำชำเราบังคับถ่ายคลิปทำ Onlyfans ใช้ชื่อว่า "มิกิ สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น" (ระงับแล้ว) ซ้ำยังตระเวนหาชายแปลกหน้ามากระทำชำเราลูกและเมียตัวเองแบบ “ทรีซั่ม” กว่า 7 วัน 7 คืนเพื่อจะถ่ายคลิป18+
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำชุดสืบนครบาลไล่ล่าจนไปจับกุมตัวได้ที่หัวหิน
ขณะกำลังจะตั้งกล้องถ่ายคลิปโป๊กับสาวรายใหม่ เจ้าตัวอ้าง “หาเงินไปเที่ยว” สืบนครบาลไล่ล่าจนไปจับกุมตัวได้ที่ อ.หัวหิน ยืนยันเสียงแข็ง“ลูกโกหก เพราะอยากได้ไอโฟน และไม่ได้ทำหนังโป๊ใดๆทั้งสิ้น” แต่เมื่อขยายผลพบหลักฐานความวิตถารจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว นายอนณ หรือนายทศกัณฑ์ หรือเจมส์ อายุ 32 ปี (ขอสงวนนามสกุลเพื่อปกปิดผู้เสียหาย) ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ ดังนี้
1.หมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี จ.641/2567 ลงวันที่ 19 ส.ค. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน”
2.หมายจับศาลแขวงปทุมวันที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 6 พ.ย. 66 ข้อหา “ฉ้อโกง”
3.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.365/2566 ลงวันที่ 1 พ.ค. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น”
4.หมายจับศาลแขวงสมุทรปราการที่ จ.75/2566 ลงวันที่ 28 เม.ย. 66 ข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ”
ตรวจสอบพบประวัติคดีอาญา 7 คดี
1.วันที่ 21 มี.ค. 63 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร
2.วันที่ 16 ก.ค. 65 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
3.วันที่ 29 ธ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
4.วันที่ 15 ก.พ. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” พื้นที่ สน.ทองหล่อ
5.วันที่ 30 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
6.วันที่ 7 เม.ย. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.หัวหมาก
7.วันที่ 31 ก.ค. 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” พื้นที่ สภ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี
พฤติการณ์กล่าวคือ “เรือนวิปริต” เด็กสาววัย 14 ปี นั่งร้องไห้ กับภาพที่ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้ากำลังตั้งกล้องเพื่อบันทึกภาพ ก่อนจับขังแล้วบังคับขืนใจเธอกว่า 7 วัน 7 และเรื่องราวสุดวิปริตมากมายเกิดขึ้นในบ้านพักแห่งนี้ เกิดขึ้นเมื่อห้วงวันที่ 31 ก.ค. ถึงวันที่ 7 ส.ค. 67
สืบเนื่องจากชุดสืบนครบาลได้สืบสวนติดตามตัว “เจมส์-ทศกัณฑ์” ซึ่งตระเวนก่อเหตุซ้อนแผนฉกโทรศัพท์อย่างแยบยลด้วยแผนประทุษกรรมการลวงให้ส่งของผ่านบริการรถรับจ้าง Grab แล้วใช้จังหวะช่องโหว่ลักโทรศัพท์เหยื่อเป็นจำนวนมาก โดยก่อเหตุลักษณะเดียวกันต่อเนื่องหลายคดีในพื้น สน.ปทุมวัน , สน.ทองหล่อ และ สน.หัวหมาก จนถูกออกหมายจับ
ระหว่างที่ชุดสืบนครบาลไล่ล่าติดตามจับกุมตัว ได้ไปพบกับบุตรสาวของคนร้ายวัย 14 ปี แล้วเรื่องราวสุดสะเทือนใจได้แดงขึ้น โดยน้องได้เล่าให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลฟังว่า “คนร้ายเป็นพ่อแท้ๆของเธอ โดยในห้วงปลายเดือน ก.ค. 67 ระหว่างที่น้องนั่งบนรถยนต์กับพ่อ พ่อได้ชักชวนน้องให้ทำหนังผู้ใหญ่หรือที่เรียกว่า OnlyFans โดยได้พาน้องไปฉีดยาคุมที่คลินิกย่านทุ่งครุ ก่อนจะพาตัวเข้าไปในบ้านพักย่านคลองหลวง น้องพยายามขัดขืนแต่พ่อได้ข่มขู่พร้อมกับยึดโทรศัพท์ ก่อนจะขังไว้ในบ้านพัก จากนั้นได้เริ่มลงมือข่มขืนเธอกว่า 7 วัน 7 คืน ซ้ำยังออกไปตระเวนหาคนเพื่อให้มาล่วงละเมิดเพื่อจะถ่ายคลิป18+ และพ่อยังเรียกเมีย (คนใหม่) พร้อมกับชายแปลกหน้าที่หามาให้มาร่วมถ่ายคลิปพร้อมกัน น้องทนไม่ไหว จึงพยายามหลบหนีโดยสบโอกาสแอบเอาเล่นโทรศัพท์ทักไปบอกญาติแต่ถูกจับได้ถูกลงมือทำร้ายตบตีและข่มขู่ท้าทายว่า"ไม่กลัวตำรวจ" ถ้ามาจะเอาขวานฟัน ซึ่งท้ายสุดสามารถหนีออกจากบ้านมาได้จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี โดยล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน” แต่หลังจากเรื่องแดงขึ้นคนร้ายไหวตัว ทำลายหลักฐานถอดกล้องวงจรปิดในเรือนวิปริตก่อนหลบหนีออกนอกพื้นที่
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยขณะจับกุมเจ้าตัวอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านพัก คนร้ายทำท่าที “ดึงเข้ม” ใส่ชุดสืบสวน ปฏิเสธว่ามิได้ลงมือข่มขืนบุตรสาวตัวเองและมิได้ทำเว็บโป๊ แต่เมื่อเค้นสอบขยายผล จนได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้วางแผนกับแฟนสาวทำมิดีมิร้ายกับบุตรสาวจริง ไม่ว่าจะแอบวางยาและวางแผนการอื่นๆ และยังพบว่าคนร้ายเปิดเป็น Admin กลุ่มลับ “มิกิ” ไลฟ์สดโป๊เปลือยแนววิปริต โดยตระเวนให้แฟนของตัวเองไปนอนกับชายอื่นแล้วถ่ายไลฟ์สดจำนวนมาก และที่ทำให้อึ้งเพราะชุดสืบสวนพบแชทการวางแผนของคนร้ายที่จะให้ชายอื่น “มามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสาวตัวเอง” และยังพบหลักฐานการ “แบล็คเมล” หลอกให้เด็กสาววัย 15 ปี ถ่ายเรือนร่างแล้วขู่เอาเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
ในชั้นจับกุม นายอนณ (สงวนนามสกุล) หรือ “เจมส์ทศกัณฑ์” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้ทำหนังโป๊ แต่ที่ตำรวจพบคือการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนที่บุตรสาวแท้ๆของตนไปแจ้งความเพราะว่าตนไม่ยอมซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ลูก ลูกเลยไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ย้ายที่อยู่บ่อยๆไม่ได้เป็นการหลบหนี แต่เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเปลี่ยนที่อยู่ ยอมรับว่าทำคลิปโป๊จริง โดยจะให้แฟนคนปัจจุบันเป็นนักแสดงหลัก ตระเวนหาชายอื่นและโลเคชั่นอื่นๆเพื่อถ่ายทำ บางครั้งก็ให้ชายแปลกหน้า 2 คน มามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเอง โดยยอมรับว่าเป็นรสนิยมทั้งตนและแฟน แต่ยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนี้กับบุตรสาวตัวเอง เป็นเพราะเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการขยายผลพบพยานหลักฐานสอดคล้องไปทางคำให้การของฝ่ายผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบหลักฐานการทำลายพยานหลักฐานและการหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบพยานหลักฐานที่เป็นความผิดอีกหลายข้อหา โดยยังพบว่ามีเด็กสาววัย 15 ปี กำลังตกเป็นเหยื่อการแบล็คเมลของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป