ครบจบ! แจกเงิน 10,000 ล่าสุด เงินสด-เงินดิจิทัล ข่าวสำคัญต้องรู้

"กรุงเทพธุรกิจ" เกาะติดเรื่องสำคัญ ไม่ตกข่าวการ"แจกเงิน 10,000 ล่าสุด" สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-คนพิการ ย้ำว่าที่นี่ครบจบ อัปเดตล่าสุด โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ของรัฐบาลแพทองธาร

กระทรวงการคลัง รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจน ออกมติคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ออกนโยบายแจกเงินให้กลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567

จนเกิดคำถามมากมาย กรุงเทพธุรกิจ bangkokbiznews.com จะเช็กข่าวที่ถูกต้องรวบรวมตอบทุกคำถาม เกี่ยวกับเงินดิจิทัลวอลเล็ต และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567

เงินดิจิทัล 10000 ลงทะเบียนวันไหน

กรณีการทำดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินในระบบดิจิทัลหรือดิจิตอลจำนวนมูลค่า 10000 (หนึ่งหมื่นบาท) นั้น ตอนนี้ปิดลงทะเบียนแล้ว และคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" ไปแล้ว รัฐบาลให้รอไปก่อน เพราะเกี่ยวกับงบประมาณ มีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ

เงินดิจิทัล 10000 เข้าธนาคารไหน

ถ้าเงินดิจิทัล 10000 ตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะอัปเดตผ่านแอปทางรัฐคงต้องรอยังไม่เข้าธนาคารหรือแบงก์ไหน แต่การแจกเงินสด 10,000 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ประมาณ 14.5 ล้านคน จะโอนเงินให้ทุกธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

ลงทะเบียนเงินดิจิทัลไม่ทันทําไง

การลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงินดิจิตอล 10000 ผ่านแอปทางรัฐได้ปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 67 ใครที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัลไม่ทัน รัฐบาลให้รอไปก่อนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะยังมีกลุ่มประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนยังไม่ได้ลงทะเบียนเช่นกัน

แจกเงิน 10,000 ล่าสุด อัปเดตโอนเงินผูกพร้อมเพย์ 

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการลงทะเบียน ปี 2565  ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคน ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 12.40 ล้านราย

 

แจกเงินสด 10000 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงื่อนไขล่าสุด

1. ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน หรือ e-KYC สำเร็จแล้วตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง และไม่เป็นคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการตามฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ พก. กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม.
    
2. ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สำเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม. 
    
3. ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ e-KYC สำเร็จแล้ว เป็นคนพิการที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ ตามฐานข้อมูลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปท. กรุงเทพมหานคร กทม. และเมืองพัทยา แต่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลของ พก. พม. 

ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ซึ่งไม่รวมถึงผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ที่ได้ยืนยันตัวตน e-KYC สำเร็จ และเป็นบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ พม. ได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง
 

แจกเงินสด 10000 คนพิการ เงื่อนไขล่าสุด

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านคนพิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มศักยภาพของคนพิการซึ่งเป็นผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่สามารถสนองตอบต่อความต้องการและความจำเป็นของคนพิการแต่ละประเภทในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพิ่มการบริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ

โดยรัฐจะสนับสนุนเงินจำนวน 10,000 บาทต่อคนพิการ ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่

1. ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา
2. บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ กรณีไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการตามข้อ 1 ให้แก่กลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 2.15 ล้านราย 

คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่ยังไม่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม. คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการที่หมดอายุ ตามฐานข้อมูลของ พก. พม. และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา และไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะต้องทำบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

คนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. พม. แต่ได้รับเงินเบี้ยความพิการตามฐานข้อมูลของ อปท. กทม. และเมืองพัทยา มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่ได้ยืนยันตัวตน (e-KYC) ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ตามฐานข้อมูลโครงการลงทะเบียนฯ ปี 2565 ของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะต้องทำบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ พก. แจ้งยืนยันข้อมูลดังกล่าวให้กรมบัญชีกลางทราบ จึงจะได้รับสิทธิ

ทั้งนี้ จะใช้ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 และไม่รวมถึงคนพิการที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ในสังกัด พม. ตามที่ยืนยันข้อมูลคนพิการดังกล่าวให้กรมบัญชีกลาง

สำหรับ กลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป 
 

รับเงิน 10,000 ยังไง

การแจกเงินสด 10,000 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ประมาณ 14.5 ล้านคน จะโอนเงินให้ทุกธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว

แจกเงิน 10000 ตามเลขบัตรประชาชน ได้วันไหน

รัฐบาลแจ้ง วัน/เดือน/ปี กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน ดังนี้

• 25 กันยายน 2567 คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0
• 26 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3
• 27 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7
• 30 กันยายน 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9

รับเงิน 10000 พร้อมเพย์

กรณีที่จ่ายเงินให้แก่เงินสด 10,000 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ผ่านการผูกพร้อมเพย์ไม่สำเร็จในครั้งแรก จะมีการดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ได้แก่

• ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567
• ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
• ครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธันวาคม 2567
• เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ
   

ตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินสด 10000 บาท ล่าสุด

ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

• เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th คลิก
• เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ) คลิก
• แอปพลิเคชัน "รัฐจ่าย" โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง คลิก
• ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร. 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติมสำหรับคนพิการ

• ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน Call Center 1300 
• พก. โทร. 0 2354 3388 ต่อ 701 - 702 หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ
• ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter คลิก
• อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
   

ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1. ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0 2109 2345 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
2. Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2270 6400 ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 น. - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ตรวจสอบพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน

1. พร้อมเพย์ผูกกับบัตรประชาชนธนาคารกรุงไทย

ขั้นตอนแรก กดไปที่แอป Krungthai Next

ขั้นตอนที่สอง กดปุ่มบริการที่ด้านล่าง

ขั้นตอนที่สาม ใส่รหัสผ่านจำนวน 6 หลัก

ขั้นตอนที่สี่  เมื่อใส่รหันผ่านที่ตั้งไว้สำเร็จ ให้เลื่อนลงมาที่บริการพร้อยเพย์

ขั้นตอนที่ห้า กดเข้าไปที่คำว่าพร้อมเพย์ ระบบจะแจ้งว่าผูกกับพร้อมเพย์กับธนาคารไหน

2. พร้อมเพย์ผูกธนาคารออมสิน

กรณีลูกค้าติดต่อผ่าน call center เจ้าหน้าที่จะพิสูจน์ตัวตนของลุกค้าและสามารถตอบได้ว่า ลูกค้าได้ลงทะเบียนไว้กับธนาคารแล้วหรือไม่ โดยไม่บอกข้อมูลของธนาคารอื่น และสามารถแนะนำลูกค้าให้ตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยวิธีการดังนี้

ลูกค้าอาจใช้ Internet/Mobile Banking ของธนาคารที่ใช้บริการทำการตรวจสอบโดยสมัครลงทะเบียนอีกครั้ง ระบบของหลายธนาคารจะมีการตอบกลับว่าได้ลงทะเบียนไว้แล้ว และบอกด้วยว่าลงไว้กับธนาคาร

ลูกค้าอาจจะไปที่สาขาที่ตนเองต้องการลงทะเบียน และลงทะเบียนอีกครั้ง ต้องมีหลักฐานแสดงตัวตน ระบบงานที่สาขาจะสามารถให้ข้อมูลในกรณีที่ลงทะเบียนซ้ำว่าลงทะเบียนไว้แล้วที่ธนาคารใด และสามารถแจ้งลูกค้าได้

3. พร้อมเพย์สำหรับบุคคลทั่วไปกับแบงก์กรุงศรี

ลงทะเบียนพร้อมเพย์ มีบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนถูกต้องแล้ว 4 ช่องทางดังนี้

Krungsri ATM

Krungsri Online

KMA

Krungsri Biz Online

4. พร้อมเพย์ SCB ธนาคารไทยพาณิชย์

วิธีการสมัครบริการพร้อมเพย์

การสมัครบริการพร้อมเพย์ของ SCB ก็สะดวกไม่ยุ่งยาก ทำได้ง่ายๆ ทางแอป SCB EASY และ ATM SCB มีขั้นตอนดังนี้
แอป SCB EASY หน้าแรก เลือกเมนู ‘สมัครพร้อมเพย์ > ยอมรับเงื่อนไข/กด ‘ถัดไป’ > เลือก บัตรประชาชน หรือ เบอร์มือถือ (ที่ลงทะเบียนไว้กับธนาคาร) ที่ต้องการผูกรับเงินเข้าบัญชี > เลือกบัญชีที่ต้องการผูกพร้อมเพย์/กด ‘ผูกบัญชี’ > ผูกพร้อมเพย์สำเร็จ กด ‘เสร็จ’

เครื่อง ATM SCB ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประชาชน : ใส่บัตร ATM/กดรหัส > เลือก ‘รับโอนเงิน/บริการพร้อมเพย์’ > เลือก ‘ผูก SCB พร้อมเพย์’ > เลือก ‘หมายเลขบัตรประชาชน’ > เลือก ‘ยอมรับ’ > “ยืนยันการผูกบัญชีพร้อมเพย์” โดยหน้าจอแสดง หมายเลขบัญชี และหมายเลขบัตรหมายเลขประชาชน/ตรวจสอบความถูกต้องและกดยืนยัน > ผูกเลขพร้อมเพย์เรียบร้อยแล้ว

ผูกพร้อมเพย์ด้วยเบอร์มือถือ : ใส่บัตร ATM/กดรหัส > เลือก ‘รับโอนเงิน/บริการพร้อมเพย์’ > เลือก ‘ผูก SCB พร้อมเพย์’ > เลือก ‘หมายเลขโทรศัพท์มือถือ’ > เลือก ‘ยอมรับ’ > ใส่ “หมายเลขโทรศัพท์มือถือ’ที่ต้องการผูกพร้อมเพย์ > ยืนยันการผูกพร้อมเพย์” โดยหน้าจอแสดง หมายเลขบัญชี และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ/ตรวจสอบความถูกต้องและกดยืนยัน > ระบบจะส่งรหัส OTP เข้าเบอร์มือถือที่ใส่ไว้/ ใส่รหัส OTP แล้วเลือก ‘ถูกต้อง’ > ผูกเลขพร้อมเพย์เรียบร้อยแล้ว

 

อ้างอิง - รัฐบาลไทย , กระทรวงการคลัง , ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารออมสิน , แบงก์กรุงศรี และ ธนาคารไทยพาณิชย์