อัปเดตล่าสุด เส้นทางถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ รถสัญจรผ่านไม่ได้หลายแห่ง
กรมทางหลวง - กรมทางหลวงชนบท อัปเดตล่าสุด สถานการณ์อุทกภัย เช็ก! เส้นทางถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ รถสัญจรผ่านไม่ได้หลายแห่ง
กรมทางหลวง (ทล.) สรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง ประจำวันที่ 25 กันยายน 2567 พบว่า ทางหลวงถูกน้ำท่วม ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดน่าน จังหวัดสุโขทัย จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดอุดรธานี (11 สายทาง จำนวน 12 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง
อัปเดต ทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ ถนนขาด การจราจรผ่านไม่ได้ 7 แห่ง ดังนี้
จังหวัดเชียงราย 3 แห่ง
- ทางหลวงหมายเลข 1334 ผาบือ – ดอยช้างมูบ ช่วง กม.ที่ 17+500 ในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุดินสไลด์ทับเส้นทางสัญจร การจราจรผ่านไม่ได้
- ทางหลวงหมายเลข 1098 ท่าข้าวเปลือก – แก่นใต้ ช่วง กม.ที่ 18+266 – 18+466 ในพื้นที่ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เกิดเหตุตอม่อสะพานทรุดตัว ปิดการจราจร
- ทางหลวงหมายเลข 118 ดอยนางแก้ว – แม่สรวย ช่วง กม.ที่ 92+750 – 93+200 ในพื้นที่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ระดับน้ำสูง 30 – 40 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้
จังหวัดลำปาง 1 แห่ง
- ทางหลวงหมายเลข 1102 พระบาท - บ้านเหล่า ช่วง กม.ที่ 13+500 – 13+800 ในพื้นที่ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ระดับน้ำสูง 40 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้
จังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 แห่ง
- ทางหลวงหมายเลข 1265 ปาย - วัดจันทร์ ช่วง กม.ที่ 11+550 – 11+650 ในพื้นที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ระดับน้ำสูง 70 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำใช้ทางหลวงชนบทเส้นทางบ้านสบแพม – บ้านเมืองแปงแทน
จังหวัดน่าน 1 แห่ง
- ทางหลวงหมายเลข 1083 เด่นชาติ - นาน้อย ช่วง กม.ที่ 45+800 – 45+950 ในพื้นที่ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เกิดเหตุดินสไลด์ทับเส้นทางสัญจร การจราจรผ่านไม่ได้
จังหวัดสุโขทัย 1 แห่ง
- ทางหลวงหมายเลข 1195 เตว็ดใน - วังไม้ขอน ช่วง กม.ที่ 13+000 ในพื้นที่ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย เกิดเหตุถนนขาดจากกระแสน้ำ การจราจรผ่านไม่ได้ แนะนำใช้ทางเลี่ยง ทล.1195 กม.9+350 (แยกเกาะวงษ์เกียรติ์) และบริเวณ ทล.1195 กม.14+700 (แกวังทอง) แทน
หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
กรมทางหลวงชนบท เผยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้รับผลกระทบ 12 สายทาง รถสัญจรผ่านไม่ได้
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้มวลน้ำไหลลงมาสู่แม่น้ำวัง ประกอบกับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรของประชาชน รวมถึงทำให้เส้นทางจราจรในจังหวัดดังกล่าวไม่สามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว โดยเฉพาะในจังหวัดลำปาง
ปัจจุบันได้รับรายงานจากสำนักบำรุงทาง ถึงสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายทางหลวงชนบท (วันที่ 25 ก.ย. 67 เวลา 11.00 น.) ได้รับผลกระทบ 18 สายทาง ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง เชียงราย นครพนม หนองคาย อุดรธานี เพชรบูรณ์ และสุโขทัย สัญจรผ่านได้ จำนวน 6 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ จำนวน 12 สายทาง ดังนี้
1. ถนนสาย ลป.1002 แยก ทล.1 – บ้านนาแก้วตะวันตก อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (ช่วง กม.ที่ 6+100 ถึง 6+200)
2. ถนนสาย ลป.2017 แยก ทล.11 – ดอยขุนตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง (ช่วง กม.ที่ 18+100 ถึง 18+300)
3. ถนนสาย ลป.5006 แยกทางหลวงชนบทสาย ลป.1014 – อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง (ช่วง กม.ที่ 19+975 ถึง 20+175 และ 25+600 ถึง 26+100)
4. สะพาน ชร.007 สะพานพ่อขุนเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
5. สะพาน ชร.016 สะพานแม่น้ำกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
6. ถนนสาย นพ.3065 แยก ทล.212 – บ้านหนองสาหร่าย อำเภอบ้านแพง, ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 3+000 ถึง 3+500)
7. ถนนสาย นพ.4059 แยก ทล.2032 – บ้านไทยสบาย อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม (ช่วง กม.ที่ 9+850 ถึง 10+175)
8. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009 – บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 7+525 ถึง 8+850 และ 12+825 ถึง 13+400)
9. ถนนสาย นค.3015 แยก ทล.211 – บ้านโพธิ์ตาก อำเภอท่าบ่อ, โพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 23+600 ถึง 24+800)
10. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 – บ้านธาตุกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
11. ถนนสาย นค.1034 แยก ทล.2 – บ้านโนนสีทอง (ตอนอุดรธานี) อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 9+000 ถึง 11+000)
12. ถนนสาย อด.4002 แยก ทล.2096 – บ้านสร้างคอม อำเภอสร้างคอม, บ้านดุง จังหวังอุดรธานี (ช่วง กม.ที่ 35+400 ถึง 37+800)
นายอภิรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ดังกล่าว ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยติดตั้งป้ายเตือนพร้อมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทาง เร่งบรรจุกระสอบทรายวางเป็นแนวกั้นน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนให้เดินทางอย่างปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลสายทาง หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน กรมทางหลวงชนบท 1146