แต่งชุดขาวข้าราชการ ติดเครื่องราชฯ เข้ารัฐสภา จับแล้ว ผีข้างสภา สาวต้มตุ๋น
แอบอ้างแต่งชุดขาวข้าราชการ ติดเครื่องราชฯ เข้ารัฐสภาร่วมถ่ายรูปกับ สว.-สส. โดนจับแล้ว "ผีข้างสภา" สาวแสบต้มตุ๋น
กรณี แอบอ้างแต่งชุดขาวข้าราชการ ติดเครื่องราชฯ เข้ารัฐสภาร่วมถ่ายรูปกับ สว.- สส. ล่าสุดโดนจับแล้ว "ผีข้างสภา" สาวแสบต้มตุ๋น
สืบนครบาล รายงานเรื่อง “ผีข้างสภา” เรื่องสุดแปลกเมื่อมีหญิงนักต้มตุ๋นรายหนึ่ง สุดเหิมสวมชุดเครื่องพร้อมติดเครื่องราชฯ เข้าไปเดินมั่วอยู่ในสภา ทำทีตีสนิทก่อนถ่ายภาพกับ สว. และ สส. หลายคน
พฤติกรรมแอบอ้างเป็นคนสนิทผู้ใหญ่ว่าเป็น “เลขาอดีตนายกรัฐมนตรี” ล่าสุดเรื่องแดงถูกขุดมีประวัติฉ้อโกงมา 14 คดี
อีกทั้งรัฐสภาได้ปิดประกาศแบนห้ามเข้าพื้นที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.จัดทีมสืบสวนจับกุมตัว
ล่าสุดถูกจับกุมได้ที่ห้องพักรายวันย่านลาดกระบัง โดยยังใส่ กำไล EM เจ้าตัวอ้าง “ลองใส่เฉย ชุดขาวยืมเพื่อนมา”
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. (สืบนครบาล) ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.สุวดี หรือ “น้ำหนึ่ง” อายุ 47 ปี พื้นเพ จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงดุสิตที่ จ.174/2567 ลงวันที่ 27 ก.ย. 67
ข้อหา “ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบ เครื่องหมายยศของเจ้าพนักงาน แต่งเครื่องแบบและเครื่องหมายยศเพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ”
ตรวจยึดของกลาง 5 รายการ
1.ชุดปกติขาวพร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 1 ชุด
2.เสื้อคลุมสีดำ ปักคำว่า รัฐสภา 1 ชุด
3.เสื้อคลุมสีดำ ปักคำว่า สำนักนายกรัฐมนตรี 1 ชุด
4.บัตรตัวแทนพรรคการเมืองชื่อดัง 1 ใบ
5.รถยนต์โตโยต้า แคมรี่สีเทา 1 คัน (ใช้ซุกซ่อนของกลางและนำไปจอดแอบ)
พฤติการณ์กล่าวคือ “น้ำหนึ่ง” เซียนนักต้มตุ๋น มาเหนือเมฆ สวมชุดขาวติดเครื่องราชฯ เข้าไปเดินมั่วใน “รัฐสภา” ตระเวนแอบอ้างต้มตุ๋นเหล่า สว. และ สส. หลายท่าน พบประวัติก่อเหตุฉ้อโกงมา 14 คดี จากการสืบค้นในระบบข้อมูลพบว่าคดีที่ผู้ต้องหาก่อเหตุมา
เส้นทางนักต้มตุ๋นของผู้ต้องหา เมื่อก่อนเริ่มจากการฉ้อโกงเล็กๆน้อยๆ โดยทำตัวเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ตระเวนรับเงินค่าจ้างแล้วเบี้ยว หลายรายเป็นเวลาเกือบ 10 ปี จนห้วงปี 60 เริ่มหลอกลวงรูปแบบใหม่คือ “การแอบอ้าง” ผู้ต้องหาเริ่มอ้างเป็นคนสนิทอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน หลอกลงทุนหุ้น ลงทุนเปิดร้านค้าในมหาวิทยาลัย
จนเมื่อเข้าสู่ห้วงปี 64 เริ่มแอบอ้างเป็นคนสนิทระดับ “นายกรัฐมนตรี” หลอกลวงจะวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งในสำนักนายกรัฐมนตรี หลอกจะวิ่งเต้นให้เป็นผู้ช่วย สว. จนถึงหลอกลวงลงทุน “บัตรลุงตู่พลัส”
ล่าสุดถึงขนาด สวมชุดขาวติดเครื่องราชฯ เดินเข้ามาป้วนเปี้ยนในรัฐสภาในทุกสมัยการเปิดประชุมสภา
จนกระทั่งได้มี สมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่งได้กล่าวในที่ประชุมเพื่อหารือเรื่องของมิจฉาชีพรายนี้กลางสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 โดยกล่าวถึงมิจฉาชีพรายนี้ว่าแอบแฝงเข้ามาในรัฐสภา ทำการตีสนิทกับ สว. และ สส. ชื่อดังหลายท่าน ก่อนที่มิจฉาชีพรายนี้
- แอบอ้างถึงบุคคลสำคัญเช่นตนเองเคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี
- อ้างว่าตนเองเป็นลูกบุญธรรมของภรรยาของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
- อ้างว่าตนเป็นญาติกับภรรยาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
- อ้างว่าตนเป็นคนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ
โดยมักทำพฤติกรรมทำทีเอาโทรศัพท์โชว์ให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และล่าสุดทำพฤติกรรมแต่งชุดขาวพร้อมติดเครื่องราชฯ ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ เข้ามามั่วถ่ายรูปคู่กับหลายๆคนภายในรัฐสภา โดยอ้างว่าตนเป็นราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาตรวจสอบจนไปทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้เสนอให้มีการสอบสวนเป็นวาระเร่งด่วนโดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐสภาต้องติดประกาศห้ามผู้ต้องหาเข้าพื้นที่
ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาก็ได้ถูกพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ออกหมายจับ และเมื่อเรื่องของผู้ต้องหาแดงขึ้นที่สภา ผู้ต้องหาก็ไหวตัวหลบหนีเข้ากลีบเมฆไป พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.วิเคราะห์พฤติกรรมแล้วเป็นภัยต่อสังคม เร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดไล่ล่าติดตามตัวทันที โดยระหว่างที่ชุดสารวัตรแจ๊ะได้ล่าติดตามพบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปกบดานอยู่กับ “หมอดูชื่อดัง” ตระเวนเช่าห้องพักรายวันอยู่ในละแวก ถ.ลาดกระบัง โดยจะเปลี่ยนที่พักทุกๆวันไม่ให้ซ้ำ เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ กระทั่งวันที่ 5 ต.ค. 67 ชุดสืบสวนได้พบคนร้ายกำลังจะย้ายที่พักจึงทำการจับกุมตัวไว้ทันที
ซึ่งหลังการจับกุมชุดสืบสวนได้ขยายผลตรวจค้นพบ ชุดข้าราชการ (ชุดขาว) ติดเครื่องราชฯ , เสื้อคลุมตราสำนักนายกรัฐมนตรี , เสื้อคลุมตรารัฐสภา , บัตรตัวแทนพรรคการเมืองชื่อดัง ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์เช่า โดยไปจอดแอบไว้อยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช และจากการตรวจสอบโทรศัพท์พบภาพถ่ายคู่กับนักการเมืองชื่อดังหลายท่าน มีภาพถ่ายการสวมชุดข้าราชการ (ชุดขาว) หลายภาพ และจากการสอบถามบุคคลในพื้นที่ละแวกที่คนร้ายหลบหนีไปกบดาลนั้นได้ข้อมูลว่า คนร้ายมักแอบอ้างว่าตนเองมีตำแหน่งทางการเมือง ลักษณะอวดกับพนักงานหลายๆแห่งในพื้นที่
ในชั้นจับกุม น.ส.สุวดี หรือ “น้ำหนึ่ง” ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ทางคดีตนเองได้นำเครื่องแบบของเพื่อนมาสวม โดยที่ปรากฏภาพที่ไปถ่ายชุดขาวกับคนอื่นๆในรัฐสภา เป็นเพราะวันนั้นตนเองลองสวมดูเฉยๆ ตั้งใจจะไปถ่ายภาพเพื่อนำไปสมัครเป็น สส. โดยต้นเหตุที่ตนโดนคดีมาจากการถูกกลั่นแกล้วจาก สว. ท่านหนึ่งที่มีปัญหากับตนเพราะเข้าใจว่าตนเป็นสาเหตุให้ สว. ท่านนั้นเลิกกับภรรยา จึงเดินหน้าหาเรื่องตน
ส่วนที่บอกว่าตนเองสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธฯ นั้นเพราะตนเองเคยช่วยหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐ และได้ถ่ายภาพคู่กับ พล.อ.ประยุทธฯ หลายครั้งแต่ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธฯ จะรู้จักตนเองหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เคยไปทำอะไรเสียหายๆให้กับ สว. และ สส. ในสภา แต่คดีฉ้อโกงที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่จบไปแล้วเพราะตนนำเงินไปคืนให้กับผู้เสียหาย แต่ยังมีคดีที่อยู่บนศาลคือที่ไปหลอกลวงลงทุน "บัตรลุงตู่พลัส" ความเสียหาย 1,700,000 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างการสู้ชั้นอุทรณ์ยืนยันว่าตนเองไม่เคยไปแอบอ้างไปอวดเบ่งผู้ใด แต่ถ้ามีคนบอกว่าตนเองเคยไปแอบอ้างตนยินดีไปพูดคุยกับทุกคน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพฤติกรรมที่ได้ข้อมูลประวัติคดี ข้อมูลจากการสืบสวนค่อนข้างมีทิศทางตรงข้ามกับคำให้การของผู้ต้องหา จากประวัติต้องคดีของผู้ต้องหารายนี้นับว่าก่อคดีมามาก ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคดีในข้อหา ฉ้อโกง แต่จากพฤติการณ์แล้วจะเห็นว่าผู้ต้องหานั้นไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ มีพฤติกรรมเข้าไปในสภาถือว่าผู้ต้องหาล่าสุดได้ถูกออกหมายจับในเรื่องของการสวมเครื่องแบบและเครื่องราชฯ
ซึ่งในทางคดีนั้นพยานหลักฐานและยังพบว่ามีการกระทำเช่นนี้หลายครั้ง ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ขอประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า น้ำหนึ่ง หลอกลวงไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ดำเนินคดี