ศปช. เตือน ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน ระวังน้ำเพิ่มสูง หลังเป็นพื้นที่รับน้ำต่อ
ศปช. เตือน ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน ระวังน้ำสูง หลังเป็นพื้นที่รับน้ำต่อ กรมชลฯ ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายลงแม่น้ำกวง ด้าน "นายกฯ" ส่ง "สุริยะ" ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ศปช.ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ที่จ.ลำพูน ขณะนี้ ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่อ.เมืองลำพูน โดยเฉพาะที่ต.เหมืองง่า ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจากต.อุโมงค์ และต.หนองช้างคืน ก่อนไหลลงคลองสาขาและแม่น้ำ กวง โดยกรมชลประทานได้ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ และเปิดประตูระบายเหมืองปิงห่าง เร่งระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุดโดยขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ควรยกของขึ้นที่สูงและเคลื่อนย้ายยานพาหนะไปจอดยังพื้นที่สูง
“ระดับน้ำในพื้นที่ต.อุโมงค์ และต.หนองช้างคืน ค่อยๆลดลง และปริมาณน้ำยังไหลต่อไปยังพื้นที่ ต.เหมืองง่า ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งขณะนี้หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนโดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว และยังมีเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรืออีก 20 ลำ มาช่วยผลักดันน้ำ ที่จุดสะพานเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ.2540 อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จุดเชื่อมต่อกับ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำปิง”
นายจิรายุ ยังกล่าวด้วยว่า บ่ายวันนี้ (10 ต.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างประชุม อาเซียนที่ประเทศลาว ได้ รับรายงานว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ บรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย ยืนยันทุกภาคส่วนเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และนายกฯได้ฝากความห่วงใย ขอให้มีกำลังใจฝ่าฟันเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท และค่าช่วยล้างดินโคลนบ้านน้ำท่วม หลังละ 10,000 บาท เป็นต้น
สำหรับถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและน้ำหลาก ดินถล่ม ได้รับรายงานว่า สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยง อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย พร้อมสัญญาณไฟ เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมาทราบ และระดมเจ้าหน้าที่-เครื่องมือเข้าเคลียร์ทุกสายทางที่ยังมีดินโคลนถล่มทับเส้นทาง จนสามารถเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้แล้ว ยังเหลือสายทางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จ.เชียงใหม่และสุโขทัย รวม 8 สายทาง สัญจรผ่านได้ 7 สายทางและยังผ่านไม่ได้ 1 สายทาง
ในส่วนของการฟื้นฟู อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายจิรายุ กล่าวว่า หลังสถานการณ์น้ำคลี่คลาย หลายหน่วยงานลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้กลับมาเปิดบริการประชาชนเร็วที่สุด ล่าสุด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ระดมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่งไม้ ปรับภูมิทัศน์และเก็บขยะในพื้นที่สาธารณะ 3 แห่งหลัก ที่ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สายถึงแยกมูลนิธิกวงเม้ง , บริเวณสวนสาธารณะพรหมมหาราช และสถานีขนส่งผู้โดยสารอ.แม่สาย ขณะนี้สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติแล้ว