สรุปผู้เสียหาย The iCON Group 4 วัน สูงถึง 800 ราย เสียหาย 266 ล้าน

สรุปผู้เสียหาย The iCON Group 4 วัน สูงถึง 800 ราย เสียหาย 266 ล้าน

สรุปตัวเลขผู้เสียหาย The iCON Group 4 วัน สูงถึง 800 ราย ความเสียหาย 266 ล้านบาท เข้าใกล้หลักเกณฑ์การเป็นคดีพิเศษของ DSI และจะทำคดีร่วมกัน ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาบอสทั้ง 6 ราย เนื่องจากอยู่ในระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐาน

วันนี้ (13 ต.ค. 67) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าของบริษัท The icon group โดยระบุภาพรวมวันนี้ ว่า วันนี้มีคนเข้าแจ้งความเพิ่มเติมอีก 240 ราย ยอดรวมผู้เสียหายทั้ง 4 วัน ตอนนี้อยู่ที่ 740 ราย และ คาดว่าจะถึง 800 ราย ในวันนี้ ส่วนความเสียหายรวมกว่า 266 ล้านบาท

ปัจจุบันตำรวจจัดกำลังพนักงานสอบสวนรับเรื่อง 70 นาย ยอมรับเมื่อวานนี้ การดำเนินการยังมีติดขัดอยู่บ้าง สอบผู้เสียหายคนสุดท้ายแล้วเสร็จเวลาประมาณ 23.30 น. ทั้งนี้ขอนำเรียนว่า สำหรับผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางมา บช.ก. อบ่างเดียว เพราะสามารถแจ้งความตามโรงพักใกล้เคียงได้ จะได้ไม่เสียเวลา หรือค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น 

ในส่วนของผู้ที่บริหาร "ดิไอคอนกรุ๊ป" และ "ดารา" ที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเมื่อวานนั้น ประกอบด้วย กรรมการบริหารบริษัท 1 ราย คือ "บอสพอล" ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มดารา ประกอบด้วย "แซม ยุรนันท์" "มิน พีชญา" "บอสปีเตอร์" และ "บอสหมอเอก" ขณะที่ในวันนี้มีมาเพิ่มเติมอีก 1 คน คือ "กันต์ กันตถาวร" รวมเป็น 6 คน พร้อมทั้งแม่ทีมอีก 8 ราย 
 

ยอมรับว่า พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ ผู้บริหารและเหล่าดารา ทั้ง 6 คน ในฐานะผู้ต้องหา ตามที่มีผู้เสียหายแจ้งความกล่าวโทษ โดยใช้อำนาจตามมาตรา 134 วรรคแรก ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน ในการรวบรวมพยานหลักฐาน มาประมวลเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ และ คำให้การของผู้เสียหาย วัตถุพยานต่างๆ เพื่อพิจารณาข้อหาที่จะดำเนินคดีอีกที ซึ่งเราต้องพิจารณาให้รอบครอบ ทำอย่างตรงไปตรงมา

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. กล่าวว่า ตามหลักกฎหมายไทย การจะดำเนินคดีกับใคร ต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งเมื่อมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ เราจึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้กับทั้ง 6 คน ได้รับทราบว่ามีผู้เสียหายแจ้งข้อกล่าวหาเหล่านี้กับพวกเขา แต่ในส่วนของการพิจารณาข้อหาที่จะดำเนินคดี ขณะนี้ยังอยู่ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งการจะพิจารณาข้อหา เราไม่ได้พิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเดียว ต้องดูหลายๆอย่างให้รอบครอบรัดกุมทุกมิติ 

ส่วนเรื่องที่ยังไม่มีการควบคุมตัวนั้น เพราะขั้นตอนในตอนนี้เรายังมีเพียงแค่พยานบุคคล การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงความผิดทางคดี หรือ ความบริสุทธิ์ได้ รวมถึงยังมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเรื่อยๆ
 

ซึ่งตำรวจต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องการใช้อำนาจตามมาตรา 134 จะมีผลกับเงื่อนไขการออกหมายจับหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกัน เราต้องมาพิจารณาจากพยานหลักฐานต่างๆก่อน จึงจะพิจารณาว่าจะสามารถออกหมายจับได้หรือไม่

ยอมรับว่ายอดมูลค่าเสียหายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คดีดังกล่าวเข้าใกล้หลักเกณฑ์การเป็นคดีพิเศษ ซึ่งเราได้มีการประสานข้อมูลร่วมกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไว้บ้างแล้ว เชื่อว่าแม้จะเปลี่ยนมือแต่ก็ยังต้องทำงานร่วมกัน ไม่น่ามีผลกระทบต่อคดี ส่วนรายละเอียดคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีกลุ่มดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์ ทยอยมาเข้าให้การเพิ่มเติมเรื่อยๆ