“รมว.เกษตรไทย-อิตาลี”หารือสร้างความร่วมมือพัฒนาและวิจัยยกระดับภาคเกษตร

“รมว.เกษตรไทย-อิตาลี”หารือสร้างความร่วมมือพัฒนาและวิจัยยกระดับภาคเกษตร

“รัฐมนตรีเกษตรไทย - อิตาลี” พบปะหารือสร้างความเข้มแข็งความร่วมมือภาคเกษตร โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรกับอิตาลี

วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหหกรณ์ ได้เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีพบปะหารือกับ Mr.Francesco Lollobrigida รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร อธิปไตยทางอาหารและป่าไม้ของอิตาลี ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ณ กรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี

Mr.Francesco ได้กล่าวถึงการเยือนอิตาลีของอดีตนายกรัฐมตรี เศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ประชุมหารือกับ H.E. Mrs. Giorgia Meloni นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอิตาลี เมื่อเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลี ซึ่ง Mr.Frencesco มีกำหนดการเยือนไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ
 

ศ.ดร.นฤมล ได้กล่าวว่า ขอให้อิตาลีมั่นใจการสานต่อดำเนินงานของไทยที่ยังคงตั้งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือและงานวิจัย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรกับอิตาลี

 ในประเด็นสินค้าเกษตร นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้ขอความสนับสนุนจากอิตาลีผลักดันการดำเนินการเคลื่อนย้ายม้าจากประเทศไทยไปยังสหภาพยุโรป โดยในปี 2563 สหภาพยุโรปได้ระงับการนำเข้าเป็นการชั่วคราวเนื่องจากโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness, AHS) ทำให้ม้าที่มาจากไทยไม่สามารถเคลื่อนย้ายกลับไปยังสหภาพยุโรปได้ จึงส่งผลกระทบต่อวงการกีฬาขี่ม้าของไทย ทั้งนี้ องค์กรสุขภาพสัตว์โลก (WOAH) ได้ให้การรับรองประเทศไทยว่าเป็นประเทศปลอดโรค AHS (AHS-free country) ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 และหวังว่าทางอิตาลีจะช่วยผลักดันให้สหภาพยุโรปคืนสถานะให้กับไทยภายในปีนี้ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกเป็นอย่างมากให้กับนักกีฬาที่จะนำม้าจากสหภาพยุโรปเข้ามาแข่งในประเทศไทยในห้วงเดือนธันวาคม 2568

ฝ่ายอิตาลีโดย Mr.Francesco ได้รับทราบประเด็นดังกล่าวและจะติดตามการดำเนินงานของสหภาพยุโรปอย่างใกล้ชิดต่อไป

ศ.ดร.นฤมล ได้เชิญชวนให้อิตาลีเข้าร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรดิน และน้ำ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน (The International Soil and Water Forum 2024) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ FAO ซึ่งมีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2567 ณ กรุงเทพมหานครฯ 

Mr.Franceso ได้แสดงความสนใจในการประชุมดังกล่าว อย่างไรก็ดี การมีกำหนดการเยือนไทยในระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายนนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบปะหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคเกษตรของทั้งสองประเทศต่อไป