บุกจับนอมินีลูกเขยอดีตนายกฯ ทต.ที่สมุทรปราการ ปลอมเอกสารร่วมฮั้วประมูล
งานเข้า! ป.ป.ช. บุกจับนอมินีลูกเขยอดีตนายกฯ ทต.ที่สมุทรปราการ ปลอมเอกสารร่วมฮั้วประมูล กรณีร้านไม่มีคุณสมบัติตามประกาศจัดซื้อจัดจ้าง แต่นายกในขณะนั้นไม่ตัดสิทธิ
กรณี ป.ป.ช. บุกจับนอมินีลูกเขยอดีตนายกฯ ทต.ที่สมุทรปราการ ปลอมเอกสารร่วมฮั้วประมูล
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นางสาวชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วานนี้ ได้สั่งการให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 1 บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สืบสวนติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564
จับกุมนายรังสรรค์ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162 (2) (4) ประกอบมาตรา 86 และ พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86
โดยระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ถึงเดือนกรกฎาคม 2549 นายรังสรรค์ มีพฤติกรรมใช้ชื่อของตนเอง จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ให้กับบุตรเขยของอดีตนายกเทศมนตรีตำบลในสมุทรปราการ ซึ่งรับราชการอยู่ที่เทศบาลตำบลในสมุทรปราการ
และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงานไปยื่นเสนอราคาโครงการจ้างเหมาถมดินปรับพื้นที่บริเวณที่ดินของเทศบาล งบประมาณ 5,948,000 บาท และโครงการจ้างเหมาถมดินสถานที่ก่อสร้างที่พักพนักงานเทศบาลตำบล งบประมาณ 3,772,000 บาท
โดยที่ร้านไม่มีคุณสมบัติตามประกาศจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าว แต่นายกเทศมนตรีในขณะนั้น ไม่ตัดสิทธิร้านออกจากการเสนอราคาทั้ง 2 โครงการและไม่ยกเลิกการเสนอราคา
ทั้งที่ทราบว่าร้านไม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศจัดซื้อจัดจ้างและมีการปลอมแปลงเอกสารรับรองผลงาน เนื่องจากเจ้าของที่แท้จริงของร้านเป็นบุตรเขยของตนเอง แต่กลับทำสัญญาจ้างร้าน ให้เข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลตำบลบางเมือง โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมอันเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ร้านให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านชุมชนทานตะวัน ซอยวัดไตรสามัคคี 9 ถนนสุขุมวิท ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 15 ตุลาคม 2567 จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม 2567 พบเห็นบุคคลมีลักษณะและรูปพรรณสัณฐานตรงกับผู้ถูกกล่าวหาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมา จากบ้านเป้าหมาย ชุดจับกุมได้ติดตามมาถึงบริเวณกลางซอยภานุวงศ์ 6 จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดรถและแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและเจ้าพนักงาน ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจสอบ พบว่าบุคคลดังกล่าว คือนายรังสรรค์ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 17/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564
พร้อมกับแจ้งว่าจะต้องถูกจับ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือพื้นที่จับกุม และควบคุมตัวไปยังกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อทำบันทึกจับกุมพร้อมแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบ โดยดำเนินการแจ้งการควบคุมตัวไปยังอัยการและฝ่ายปกครองตาม พรบ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 จากนั้นนำตัวส่งไปยังสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริตภาค 1 เพื่อฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป
หากท่านพบเห็นการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ สามารถแจ้งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 1205 เว็บไซต์สำนักงาน ป.ป.ช. www.nacc.go.th หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ
อ้างอิง - สำนักงาน ป.ป.ช.