ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต 'ไร่เชิญตะวัน' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่

ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต 'ไร่เชิญตะวัน' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่

เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตำรวจ บก.ปทส.ลุยตรวจสอบหมุดเขต "ไร่เชิญตะวัน" ยังไม่ชี้รุกป่าหรือไม่ เบื้องต้น "พระ ว.วชิรเมธี" ยังไม่กลับจากญี่ปุ่น หากพบรุกป่า ต้องยึดคืน และหากผิดจริงจะแจ้งความเอาผิดฐาน "บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ"

วันนี้ (21 ต.ค. 67) นายประสิทธิ์ ท่าช้าง ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) พร้อมด้วย พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว. กก.4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ สำนักพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจสอบภายใน "ไร่เชิญตะวัน" บ้านใหม่สันป่าเหียง ม.25 ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย

หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่า "ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน" ของ "พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี" พระนักเทศน์ชื่อดัง อาจมีการบุกรุก พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย ในท้องที่ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต \'ไร่เชิญตะวัน\' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่

โดยในการเข้าตรวจสอบไม่พบ "พระ ว.วชิรเมธี" ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ และลูกศิษย์แจ้งว่ายังประกอบศาสนกิจ อยู่ที่วัดในประเทศญี่ปุ่น ยังไม่ทราบกำหนดว่าจะเดินทางกลับเมื่อใด 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ที่ดูแล "ไร่เชิญตะวัน" ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ โดยนำเอกสารสัญญาเช่าการใช้พื้นที่ดินที่ทำกับทางกรมป่าไม้มาแสดง พร้อมเซ็นรับทราบการเข้าตรวจของเจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะพานำตรวจตามหลักหมุดของแปลงที่ดินรอบพื้นที่ โดยใช้เครื่องจีพีเอสตรวจหาค่าพิกัดตำแหน่งพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเทียบเคียงพื้นที่ใช้ประโยชน์จริงกับพื้นที่ขออนุญาติใช้ประโยชน์ในการใช้ที่ดิน

ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต \'ไร่เชิญตะวัน\' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่


นายประสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้นตรวจสอบโดยเป็นตรวจแนวขอบเขตที่ทางเจ้าหน้าที่ของทาง "ไร่เชิญตะวัน" นำชี้ตรวจก่อน ยังไม่สามารถสรุปหรือชี้ได้ว่าจะมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซี่งต้องสำรวจพื้นที่โดยรอบทั้งหมดก่อน ซึ่งแต่ละจุดมีหลักหมุดไม่เหมือนกัน ต้องหาค่าพิกัดทั้งหมดแล้วนำมาประเมินผลอีกครั้งซึ่งอาจใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างน้อย 1-2 วัน แต่หากพบว่าเข้าข่ายมีการบุกรุก ก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการก่อน

ด้าน พ.ต.ท.ยศวัฒน์ กล่าวว่า ขั้นตอนแรกเราต้องทราบก่อนว่าพื้นที่ของไร่มีขอบเขตอยู่แค่ไหน จึงต้องลงพื้นที่เข้ามาสำรวจ เพื่อได้พิกัดตำแหน่งชัดเจนตามที่ทางเจ้าหน้าที่ของทางไร่นำชี้ จากนั้นก็จะนำมาเทียบเคียงกับภาพถ่ายของกรมป่าไม้ว่ายังอยู่ในขอบเขตที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ หรือมีส่วนไหนเกินออกมาบ้าง ซึ่งเรื่องนี้จะพิสูจน์ได้ต้องรอผลตรวจการใช้ที่ดินจริงทั้งหมดออกมาก่อนจึงจะสรุปออกมาเป็นรายวันว่าจะมีผลออกมาตามที่มีข้อสงสัยตามสื่อต่างๆหรือไม่ต่อไป

จากข้อมูลพบว่าทางไร่เชิญตะวัน โดยมูลนิธิวิมุตตยาลัย ได้ขอใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติดอยปุย กับทางจังหวัดเชียงราย ซึ่ง นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ทำหนังสือขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่ อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เองจำนวน 113 ไร่ 1 งาน82 ตารางวา

ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต \'ไร่เชิญตะวัน\' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่

ให้ใช้พื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566 จนถึงวันที่ 12 มีนาคม 2596 เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ ธรรมสมโภช 750 ปี รัตนบุรีเชียงราย โรงเรียนชาวพุทธเศรษฐศาสตร์และเพื่อใช้เป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐาน

นอกจากนี้กรมป่าไม้ยังมีการอนุญาตให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ ใช้ประโยชน์ในที่ดินบริเวณติดกันอีก 2 แปลง เพื่อสร้างศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จำนวน 11 ไร่ 3 งาน 1 ตารางวาและเป็นสถานที่จัดตั้งวัดไร่เชิญตะวัน อีก 14 ไร่ 3 งาน 17 ตารางวา

โดยอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ไปจนถึง 22 พฤศจิกายน 2596 ทำให้มีพื้นที่อนุญาตในพื้นที่อย่างถูกต้องรวมทั้งสิ้นประมาณ 140 ไร่

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการสำรวจด้วยว่าการขออนุญาตใช้พื้นที่ในปี 2566 มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ตรงตามที่ขอหรือไม่ หากพบว่ามีรุกป่าเกินไป จะต้องยึดพื้นที่คืนและปลูกป่าทั้งนี้

หากผิดจริงจะแจ้งความเอาผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ถ้าได้กระทําเกิน 25 ไร่ โทษจําคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-2,000,000 บาท

ป่าไม้ ลุยตรวจสอบหมุดเขต \'ไร่เชิญตะวัน\' บุกรุกป่าสงวนฯ ดอยปุยหรือไม่
 

ที่มา : nationtv