บช.ก. ยกคดี 'ดิไอคอน' ให้ ดีเอสไอ เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่ม

วันนี้ (27 ต.ค. 67) มีรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เดินทางเข้าพบ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้า และร่วมประชุมร่วมกันในคดีดิไอคอนกรุ๊ปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะโอนสำนวนคดีทั้งหมดในส่วนของตำรวจสอบสวนกลาง ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอดำเนินคดีต่อ หลังจากก่อนหน้านี้ดีเอสไอแถลงว่า จะรับเพียงเฉพาะข้อหา พ.ร.บ.ฟอกเงิน ไปดำเนินคดีเท่านั้น 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า บช.ก. จะ รวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมด ส่งมอบให้กับดีเอสไอในวันจันทร์ที่ 28 ต.ค.นี้ เบื้องต้น คดีดังกล่าวมีการแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนไปแล้วจำนวน 2 ข้อหา คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งหลังจากรับคดีไปแล้ว ทางดีเอสไอก็จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวมถึงขยายผลการดำเนินคดีไปยังผู้ต้องหาที่เหลือต่อไปด้วย 
 

ทั้งนี้สำหรับคดีที่ตามมาในกรณีนักร้องเรียนที่มีการเรียกรับเงินจาก "บอสพอล" เพื่อเรียกกับการไม่ถูกร้องเรียนยังเป็นในส่วนของ บก.ปปป.ที่จะดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.กล่าวว่า เรื่องส่งสำนวนให้ดีเอสไอในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) คงมีความชัดเจน ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนกำลังหารือกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.ที่รับผิดชอบดูแลการสอบสวนทั้งหมดก่อนอีกครััง

บิ๊กอ้อ เตรียมตรวจสอบสำนวนคดีดิไอคอนก่อนส่งมอบ ดีเอสไอ พรุ่งนี้ 

ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (28 ต.ค.) จะมีการโอนส่งมอบสำนวน คดี ดิไอคอน กรุ๊ป ทั้งหมด ให้กับดีเอสไอ ส่วนหลังจากนี้ทางดีเอสไอ จะประสานให้ตำรวจช่วยในเรื่องไหนนั้น สามารถทำได้ ตำรวจยินดีพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

ส่วนการออกหมายจับล็อต 2 นั้น ถ้าจะให้ตำรวจเป็นผู้ออกหมายเอง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม อาจจะถูกฝั่งผู้ต้องหาร้องไม่ได้รับความเป็นธรรมได้  ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมาพิจารนากันอีกครั้ง สำหรับในช่วงนี้ตำรวจคงต้องช่วยในเรื่องการสอบปากคำผู้เสียหายไปก่อน 

ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันพรุ่งนี้คณะพนักงานสอบสวนคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ของ บช.ก.จะตรวจสอบความเรียบร้อยแฟ้มคดี ก่อนจะโอนส่งมอบให้ดีเอสไอ หลังจากตรวจทานแล้ว จะประสานกันอีกทีว่า จะให้ไปส่งมอบที่ บช.ก.หรือที่ดีเอสไอ ส่วนอำนาจการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ที่มี 4 ฝาก 48 วันนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มได้อีก เมื่อถึงตอนนั้นเวลาฝากขังจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ผัด 84 วัน ถือว่า เวลายังมีอีกมาก จะแจ้งก่อนหรือแจ้งตอนผัดฟ้องสุดท้ายล้วนสามารถทำได้ 

รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ส่วนเรื่องการออกหมายจับล็อต 2 นั้น ต้องดูอีกทีว่า ดีเอสไอจะเป็นผู้ออกหมายเองหรือไม่ เพราะตามอำนาจของดีเอสไอ สามารถร้องขอให้ตำรวจช่วยทำได้ เช่น เรื่องการสอบสวนผู้เสียหาย แต่เรื่องหมายจับคงต้อมาดูกันอีกที คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในวันพรุ่งนี้