ชีวิตเปลี่ยนแปลง 'หยิ่น-วอร์' ยิ่งโตยิ่งไม่เข้าใจโลก อนาคตวางแผนร่วมกัน
หยิ่น-วอร์ ชีวิตเปลี่ยนแปลง "หยิ่น อานันท์" และ "วอร์ วนรัตน์" เล่า 6 ปีที่อยู่ด้วยกันกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นคู่หูที่สนิทที่สุด ยิ่งโตยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจโลก
หยิ่น-วอร์ สองหนุ่มฮอต "หยิ่น อานันท์" และ "วอร์ วนรัตน์" เล่า 6 ปีที่อยู่ด้วยกันกับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นคู่หูที่สนิทที่สุด อดีตทั้งคู่เคยเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออก ไม่ชอบที่จะตัดสินอะไร ยิ่งโตยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจโลก! พร้อมพูดถึงอนาคตที่วางแผนร่วมกัน
รู้สึกว่าเราโตขึ้นไหม
หยิ่น : ก็เยอะนะครับ ตามช่วงวัย ผมอาจจะชัดหน่อยเพราะช่วงต้นๆ เราเด็กวัยรุ่นมากๆ จนตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่วันรุ่นปลายๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลง
วอร์ : รู้สึกว่าโตขึ้น เรื่องบุคลิกภาพ เรื่องการพูด หมดเลย
มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
วอร์ : เปลี่ยนไปพอสมควร เยอะครับ ตอนแรกเราคิดว่าวงการอาจจะมีแค่แสดง ร้องเพลง แต่พอก้าวขาเข้ามาแล้วได้รับโอกาส รู้สึกว่ามันมีหลายอย่างให้ทำมากๆ เลย ได้ลองทำหลายอย่างโอกาสมาเร็วมาก เราอาจจะต้องเตรียมความพร้อมก่อนที่โอกาสจะมาด้วยซ้ำ ถ้าเราอยากคว้าต้องมีศักยภาพก่อนที่มันจะมาด้วยซ้ำ บางทีตัวเองรู้สึกไม่พร้อม แต่มีหลายคนคอยผลักเราให้ไปลองทำ และสุดท้ายเราทำได้จริงๆ บางทีผมก็เป็นคนที่ไม่กล้าในตอนแรก ไม่กล้าลองอะไรเลยครับ
หยิ่น : ผมยิ่งหนักเลย จริงๆแล้วผมเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออกเลยด้วยซ้ำ ในวันที่ผมรับปากจะมาแสดงยังงงตัวเองเลยว่า ต้องเริ่มยังไงเราถึงกล้าตัดสินใจกล้าพูด พอได้ทำตรงนี้มันก็ค่อยๆกล้าขึ้น จริงๆได้หูคู่ดีก็มีส่วน เพราะว่าทุกๆงานเราต้องเจอมันพร้อมๆกัน ด้วยสถานการณ์บางอย่างทำให้เราจำเป็นต้องทำ พอเราได้ทำก็เป็นไปได้นะ โอกาสก็มาบ้างไปบ้าง ซึ่งจะ Say No ตลอดก็คงจะหลุดโอกาส บางอย่างเราก็ต้องกล้าที่จะทำมันด้วย
ปกติแล้วใครคุย Deep กว่ากัน
หยิ่น : ถ้าตั้งใจลง ผมว่าวอร์ลงได้ลึกกว่า เพราะว่าเขาไปศึกษาพวกปรัชญาอะไรมา ส่วนผมไม่รู้ว่า Deep ไหมแต่ว่าเน้นความจริงเป็นหลัก เวลาคุยกันผมจะคุยให้สั้นที่สุดแล้วเราเข้าใจกันที่สุด จะเป็นประเภทนั้น ไม่ต้องไปเรียบเรียงคำพูดเพื่อรักษาน้ำใจ ผมจะพูดตรงๆเลย บางคนก็จะช็อกหน่อย แรก ๆ วอร์ ก็จะช็อกหน่อย
วอร์ : คนอื่นก็ช็อก (หัวเราะ) ส่วนผมจะเป็นคนไม่ชอบที่จะตัดสินอะไรว่ามันถูกหรือผิด จริงไม่จริง เพราะเชื่อว่าความจริงในมนุษย์มันไม่มี จริงที่สุดในมนุษย์คือข้อเท็จจริงเฉยๆ ที่มันพร้อมที่จะเปลี่ยนไปได้ในอนาคต สิ่งที่เราเชื่อว่ามันถูกในอดีต ในปัจจุบันมันอาจจะกลายเป็นความคิดที่ขยะต้องรีไซเคิล คอนเทนส์มันเหมือนขยะบางทีอยู่ได้นาน บางทีเป็นขยะสดที่มันเน่าไปแล้วเลยต้องอัพเดทเรื่อยๆ ยิ่งโตยิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าใจโลก
แล้วมีตอนไหนที่รู้สึกว่าอัตตามันสลายไหม
วอร์ : บางทีก็มี บางทีก็ไม่มี คือผมจะพยายามไม่เอาบรรทัดของผมไปวัดสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงาน เรื่องของนิสัยคน สิ่งต่างๆต้องบอกว่าอันนี้ควรไม่ควร อันไหนควรไม่ควรวัดกันที่กฏหมายมากที่สุดแล้วกัน จะไม่บอกว่าคนนี้ทำไม่ดีคนนี้ทำดี
เคยวางอนาคตด้วยกันไหมว่าจะไปต่อยังไง หรือมีความฝันอะไรที่อยากทำร่วมกัน
หยิ่น : ก็มีครับเราคุยกันเรื่อยๆ จากบทสรุปทั้งหมดผมรู้สึกว่า เราก็ทำวันนี้แหล่ะให้เหมือนเป็นงานสุดท้ายของเราตลอดอยู่แล้ว และเราก็คุยกันบนพื้นฐานความจริง ทุกอย่างมันมีเกิดมีดับ ไม่มั่นใจด้วยว่าปีหน้าจะอยู่ยังไงหรืออะไร บางทีก็เป็นมุกขำๆหรือจะทำโฮมสเตย์กันเล่นๆ ไม่ได้คิดมาก แต่ว่าเมื่อเวลามันจะมาถึง ผมว่าปัจจัยอะไรหลายๆอย่างมันจะเริ่มโผล่ออกมาเอง แต่ว่าต่อให้ไม่ดัง หยิ่น วอร์ คนไม่รู้จักแล้ว แต่ยังไงผมสองคนก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทุกวันนี้มาทำงานเหมือนมาเจอเพื่อนสนิทครับ
CR. WOODY INTERVIEW