โดนแล้ว! บริษัทดังฟาร์มหมู 200 ไร่ DSI รุดสอบ กลิ่นน้ำเสีย สร้างความเดือดร้อน
ฮอตโซเชียล บริษัทดังโดนแล้ว! ทำฟาร์มหมู 200 ไร่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI รุดลงพื้นที่เชียงใหม่ตรวจสอบ กลิ่นน้ำเสีย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
กลายเป็นประเด็นฮอตโซเชียล บริษัทดังโดนแล้ว ฟาร์มหมู 200 ไร่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI รุดลงพื้นที่เชียงใหม่ ตรวจสอบ กลิ่นน้ำเสีย สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียน ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจสอบ กรณีมีบริษัทเอกชน ซึ่งประกอบกิจการฟาร์มสุกร ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อที่ประมาณกว่า 200 ไร่
สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร้องและประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง จากปัญหากลิ่น เสียง และการระบายน้ำเสียจากมูลสุกรเรื่อยมา ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย ไม่เจริญเติบโต และได้ผลผลิตไม่ดี
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ได้เกิดเหตุการณ์บ่อบำบัดของเสียของฟาร์มเลี้ยงสุกรดังกล่าวแตกและทรุดตัว ทำให้น้ำเสียจากมูลสุกรจากบ่อบำบัดไหลทะลักลงลำรางสาธารณะและอ่างเก็บน้ำชลประทาน
ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญในการผลิตน้ำประปา และไหลทะลักเข้าพื้นที่การเกษตรของประชาชนข้างเคียงได้รับความเสียหาย โดยผู้ร้องเรียนเชื่อว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรืออาจอยู่ในที่ดินของรัฐประเภทอื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ตรวจสอบ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังในทุกบทกฎหมาย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการสืบสวนแล้วพบว่า พื้นที่ประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงสุกรของบริษัทเอกชนรายดังกล่าวตามการนำชี้ของผู้แทนบริษัทฯ มีเนื้อที่ประมาณ 203-2-96 ไร่
แปลงที่ดินประกอบด้วยที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ที่ดินตามหนังสืออนุญาต ให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน และที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ จากการตรวจสอบโดยนำแผนที่แสดงแนวเขตป่าไม้ถาวร แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แตง และแนวเขตปฏิรูปที่ดินทับซ้อนลงบนแผนที่ภาพถ่ายจากอากาศยานไร้คนขับที่แสดงตำแหน่งที่ตั้ง พื้นที่ประกอบกิจการฟาร์มสุกรตามการนำชี้ พบว่า
พื้นที่ประกอบกิจการดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรบางส่วน เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบางส่วน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เนื้อที่ประมาณ 168-1-58 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แตง
ทั้งนี้ จากการสืบสวนปรากฏพยานหลักฐานว่าพื้นที่ที่บริษัทฯ อ้างหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) เป็นของบุคคลอื่นที่บริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ด้วยตนเอง
อีกทั้งมีพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ดังกล่าวอาจเป็นการออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือขัดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมีที่ดินบางแปลงเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวแนวเขตปฏิรูปที่ดินและบางแปลงอยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน แต่มีการก่นสร้าง แผ้วถางเพิ่มเติมภายในพื้นที่ซึ่งได้มีการครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินของรัฐ
และในชั้นสืบสวนไม่ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบพบการกระทำความผิดดังกล่าว และดำเนินการให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
การกระทำของบริษัทเข้าข่ายเป็นการยึดถือครอบครองทำประโยชน์ในที่ป่าและที่ดินของรัฐในเขตปฏิรูปที่ดิน และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แตง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และประมวลกฎหมายที่ดิน แต่เนื่องจากการกระทำความผิดดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณีอาจมีการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ
และดำเนินคดีกับบุคคลที่ยึดถือครอบครองที่ป่า หรือที่ดินของรัฐโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ซึ่งอยู่ในอำนาจไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงพิจารณาส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ พร้อมทั้งส่งข้อมูลการสืบสวนไปให้กรมป่าไม้ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และเทศบาลตำบลแม่แตง พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว
ในส่วนของปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบต่อประชาชนภายหลังเกิดเหตุหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันมีการดำเนินการก่อสร้างอาคารกำแพงกันดินแบบถาวร
และบริษัทฯ ให้ข้อมูลว่า มีแผนในการจัดการของเสียและแผนในการแก้ไขปัญหาเรื่องกลิ่นเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอีก จึงได้แจ้งข้อมูลไปยังกรมควบคุมมลพิษ เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูลและภาพ - กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI