เงินไร่ละ 1000 ล่าสุด 'เงินช่วยเหลือชาวนา' ได้เงินวันไหน ดูมาตรการราคาข้าว
อัปเดต เงินไร่ละ 1000 ล่าสุด "เงินช่วยเหลือชาวนา" ไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ยังมีไหม ได้เงินวันไหน? โฆษกเกษตรฯ แจง เร่งเสนอ ครม. เช็กมาตรการพยุงราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 สินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี - สินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงิน 59 หมื่นล้าน
ปีนี้เป็นยังไงบ้างชาวนาไทย! อัปเดต เงินไร่ละ 1000 ล่าสุด "เงินช่วยเหลือชาวนา" ไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ยังมีไหม ได้เงินวันไหน?
โฆษกเกษตรฯ แจงแล้ว เร่งเสนอ ครม. โดยเร็วที่สุด พร้อมเช็กมาตรการพยุงราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 จาก ธ.ก.ส. สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี - สินเชื่อ เพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม วงเงิน 59 หมื่นล้านบาท
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) ชี้แจงถึง โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/2568 หรือ โครงการไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท
เปิดเหตุผลโครงการไร่ละ 1,000 บาท ยังไม่สามารถดำเนินการได้
ขณะนี้ มีชาวนาสอบถามและเร่งรัดให้รัฐบาล อนุมัติโครงการดังกล่าวว่า โครงการไร่ละ 1,000 บาท ในขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 กำหนดเป็นหลักการว่า ในการจัดทำมาตรการ / โครงการ เพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และภาคเกษตรต่อจากนี้ไป
- ให้ทุกหน่วยงานหลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือประกันราคาสินค้าเกษตร โดยตรงแก่เกษตรกร
- ให้พิจารณาดำเนินมาตรการ / โครงการ ในลักษณะที่เป็นการสนับสนุน การเพิ่มระดับผลิตภาพ (Productivity) ของภาคการเกษตร การพัฒนาภาคเกษตรตลอด ห่วงโซ่อุปทาน
- เป็นการยกระดับกระบวนการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก้สินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกร สามารถสร้างรายได้ของตนเอง ได้อย่างเพียงพอได้ในระยะยาว และดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และมีความยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่นิ่งนอนใจ ได้ตระหนักและรับทราบถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนา เนื่องจากเป็นช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม
มาตรการช่วยเหลือชาวนา รักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จึงได้เตรียมจัดทำมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 59,500.01 ล้านบาท จำแนกเป็น
- วงเงินสินเชื่อ 50,481.00 ล้านบาท
- วงเงินจ่ายขาด 9,019.01 ล้านบาท
และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด ดังนี้
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 เป้าหมาย 3 ล้านตัน วงเงินงบประมาณรวม 43,843.76 ล้านบาท แยกเป็น
- วงเงินสินเชื่อ 35,481.00 ล้านบาท
- วงเงินจ่ายขาด 8,362.76 ล้านบาท
โดย ธ.ก.ส. จ่ายสินเชื่อตามโครงการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชะลอข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉางเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร 3 ล้านตันข้าวเปลือก
โดยกำหนดข้าวเปลือกที่เข้าร่วมโครงการฯ และวงเงินสินเชื่อต่อตัน ดังนี้
- ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,500 บาท
- ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,000 บาท
- ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท
- ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,000 บาท
- ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,000 บาท
ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวในอัตรา 1,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก โดยเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเองได้รับเต็มจำนวน
สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกเข้าโครงการฯ ได้รับในอัตรา 1,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก และเกษตรกรผู้ขายข้าวได้รับในอัตรา 500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68 เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน วงเงินงบประมาณรวม 15,656.25 ล้านบาท แยกเป็น
- วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท
- วงเงินจ่ายขาด 656.25 ล้านบาท
โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่าย หรือเพื่อการแปรรูป โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันเกษตรกร ร้อยละ 3.50 ต่อปี
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามระเบียบให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรสูงสุด และขอยืนยันว่า จะเร่งรัดการดำเนินการขั้นตอน ระเบียบ และกฎหมายต่อไป