อีกแล้ว! นักศึกษาโดนหลอกที่สมุทรปราการ ขู่พ่อแม่โอนเงินค่าไถ่นับแสน

อีกแล้ว! นักศึกษาโดนหลอกที่สมุทรปราการ ขู่พ่อแม่โอนเงินค่าไถ่นับแสน

เตือนภัย อีกแล้ว! นักศึกษาโดนหลอกที่สมุทรปราการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างตำรวจข่มขู่ บังคับพ่อแม่ผู้ปกครองโอนเงินค่าไถ่นับแสนบาท

อัปเดตเตือนภัย เกิดขึ้นอีกแล้ว นักศึกษาโดนหลอกที่สมุทรปราการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างตำรวจข่มขู่บังคับ พ่อแม่ผู้ปกครอง โอนเงินค่าไถ่นับแสนบาท

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 67 เวลา 15.25 น. กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ กก.สส.บก.น.5 ได้รับแจ้งจากคุณแม่ของน้องเอ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับตัวเรียกค่าไถ่

เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนเพื่อทำการช่วยเหลือต่อมา จากการสืบสวนพบว่า น้องมาเปิดห้องพัก ที่คอนโดแห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัย ชั้น 4 ห้อง27 โดยในเวลาต่อมาช่วงเย็นเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือน้องไว้ได้ และได้พบกับผู้ปกครองของน้องแล้ว

จากการสอบถามเบื้องต้นให้การว่า ได้มีมิจฉาชีพปลอมเป็นตำรวจ อ้างว่าอยู่ สภ.เมืองตาก ว่ามีส่วนพัวพันกับคดียาเสพติด ให้เดินทางออกจากหอพักและไปเช่าห้องอยู่คนเดียวรอคำสั่งต่อไป จากนั้นจึงให้น้องโอนเงินมาเพื่อทำการตรวจสอบ โดยให้ผู้ปกครองโอนเงิน เข้าบัญชีของน้อง จำนวน 700,000 บาท โดยก่อนหน้านี้คนร้ายได้ให้น้องโอนเงินเข้าบัญชีม้าเป็นจำนวน 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 จำนวน 49,500 บาท

ครั้งที่ 2 จำนวน 49,500 บาท

ครั้งที่ 3 จำนวน 38,000 บาท

รวม 137,000 บาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามจึงได้พาน้องไปส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางบ่อ เพื่อทำการสืบสวนขยายผลจับกุมคนร้ายต่อไป

ภัยหลอกจับตัวโทรหลอกเรียกเงินค่าไถ่

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากแจ้งเตือน ไปถึง

  • นักศึกษา
  • นักเรียน
  • ผู้ปกครอง 

พฤติกรรมของแก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มนี้ เริ่มจากการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรศัพท์หาผู้เสียหาย ทำเป็นว่ามีหมายเลขบัตรประชาชนไปเกี่ยวข้องคดีต่าง ๆ เช่น

  1. ไปติดตั้งอินเตอร์เนตบ้านแล้วไม่จ่ายเงินที่ต่างหวัด
  2. เว็บพนันออนไลน์ 

แล้วให้ไปหาสถานที่เงียบ ๆ คนเดียว เช่น ให้ไปเช่าห้องพักกักตัวเองเพื่อพูดคุยคดีความ โดยใช้จิตวิทยาพูดคุย จากนั้นมิจฉาชีพจะเริ่มขอให้โอนเงินให้

อ้างว่า เป็นค่าดำเนินคดี หรืออาจให้ผู้เสียหายไปหลอกลวงผู้ปกครองต่อ เช่น อ้างว่าโดนทำร้ายร่างกาย หรือถูกจับตัว

หากผู้ปกครองหลงเชื่อก็จะโอนเงินให้ทันที แต่จะให้โอนเข้าบัญชีของผู้เสียหาย และให้ผู้เสียหายโอนให้อีกที เพื่อไม่ให้ติดตามตัวได้ง่ายๆ

สุดท้ายหากมีคนโทรมาลักษณะนี้ ให้เดินทางไปหาตำรวจที่สถานีตำรวจได้เลย เพราะตำรวจทุกสถานีฯ สามารถตรวจสอบได้ว่าเรามีหมายจับ หรือมีคดีจริงหรือไม่ และสามารถโทรหา 191 ให้ช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง