ประกาศรายชื่ออำเภอ 'ฝนตกหนัก' น้ำท่วม น้ำป่า ถึงต้นเดือนหน้า พร้อมอพยพทันที
สทนช. ประกาศล่าสุด ฉบับ 20 เตือนคนภาคใต้ ฝนตกหนัก ดูรายชื่ออำเภอ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม 27 พ.ย. - 4 ธ.ค. 67 ลากยาว 8 วันถึงต้นเดือนหน้า แจ้งหน่วยงานพร้อมอพยพทันที ตามสถานการณ์น้ำท่วมสูง กระทบคนไทย เตือนสุราษฎร์ธานี อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำ 80% ระวังน้ำล้น
เตือนภัยธรรมชาติ ลากยาว 8 วันถึงต้นเดือนหน้า! สทนช. ประกาศล่าสุด ฉบับ 20 เตือนคนภาคใต้ "ฝนตกหนัก" เช็กรายชื่ออำเภอ เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2567
พร้อมแจ้งหน่วยงานพร้อมอพยพทันที ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมสูง กระทบคนไทย เตือนคนสุราษฎร์ธานี อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำ 80% เฝ้าระวังน้ำล้น กระทบบ้านเรือนท้ายน้ำ
ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 20/2567 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์ สภาพอากาศ พบบริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง
ทั้งนี้ สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำ
กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2567
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ
- จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร ท่าแซะ ปะทิว ละแม สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ)
- จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี กาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร เวียงสระ บ้านนาเดิม พุนพิน เคียนซา พระแสง ชัยบุรี ดอนสัก เกาะพะงัน และเกาะสมุย)
- จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ขนอม ทุ่งสง สิชล นบพิตำ พิปูน ฉวาง ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร)
- จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง วังวิเศษ ย่านตาขาว ห้วยยอด นาโยง และปะเหลียน)
- จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ทุ่งหว้า มะนัง ควนกาหลง และควนโดน)
- จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ ควนขนุน กงหรา และป่าบอน)
- จังหวัดสงขลา (อำเภอเมืองสงขลา กระแสสินธุ์ สทิงพระ ควนเนียง บางกล่ำ สิงหนคร หาดใหญ่ นาหม่อม รัตภูมิ ระโนด จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย)
- จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี โคกโพธิ์ แม่ลาน กะพ้อ ทุ่งยางแดง ไม้แก่น ยะรัง สายบุรี ยะหริ่ง ปะนาเระ มายอ และหนองจิก)
- จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และรามัน)
- จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส ศรีสาคร เจาะไอร้อง แว้ง บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี และตากใบ)
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ
- คลองชุมพร
- แม่น้ำหลังสวน
- แม่น้ำตาปี
- แม่น้ำตรัง
- คลองชะอวด
- คลองลำ
- คลองท่าแนะ
- แม่น้ำสายบุรี
- แม่น้ำปัตตานี
- แม่น้ำบางนรา
- แม่น้ำโก-ลก
- คลองตันหยงมัส
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ
รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และอิทธิพลของการขึ้น – ลง ของน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567
อ้างอิง-ภาพ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ