ไทย ทุ่มงบ 2 พันล้านบาท เจ้าภาพ จัดการแข่งขัน ซีเกมส์-พาราเกมส์
ไทย ทุ่มงบ 2 พันล้านบาท เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ เน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมได้มีมติรับรองตราสัญลักษณ์ และสัญลักษณ์นำโชคประจำการแข่งขันของทั้งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ได้มีการประกวดออกแบบมาก่อนหน้านี้ โดยได้มีการให้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการออกแบบมาพิจารณาปรับปรุงตราสัญลักษณ์ให้สอดคล้องกับซอฟต์พาวเวอร์ของไทยตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว
สำหรับจำนวนชนิดกีฬาที่มนตรีซีเกมส์ได้สรุปแล้วว่าจะบรรจุทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา 3 กีฬาสาธิต รวม 569 อีเวนต์นั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามกฎบัตรและระเบียบสหพันธ์กีฬาซีเกมส์
สำหรับงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพทั้งซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ วงเงินรวมทั้งสิ้น 2,055 ล้านบาท ที่ประชุมได้เห็นชอบงบประมาณที่ได้เสนอแผนมาแล้ว โดยจะใช้งบประมาณ พ.ศ.2568 จำนวน 577 ล้านบาท (งบเตรียมการเป็นเจ้าภาพประจำปี พ.ศ.2568 จำนวน 157 ล้านบาท, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 400 ล้านบาท) การจัดหารายได้สิทธิประโยชน์ 200 ล้านบาท ค่าลงทะเบียนเข้าการแข่งขันซีเกมส์ 115.5 ล้านบาท ค่าลงทะเบียนเข้าการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ 13.86 ล้านบาท และขอรับการจัดสรรงบประมาณจาก พรบ.งปบระมาณ ในปี พ.ศ.2559 จำนวน 1,343.640 ล้านบาท
นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ครั้งแรก เราได้มีการพูดคุยกันว่าอยากให้การจัด 2 มหกรรมกีฬาครั้งนี้ของเราเป็นในรูปแบบที่ดูแลธรรมชาติด้วย ซึ่งทางท่านนายกรัฐมนตรีก็ได้เห็นชอบที่อยากจะให้ทุกฝ่ายของไทยที่เกี่ยวข้องช่วยกันร่วมกันบูรณาการ จะมีการวัดคาร์บอนที่เราสร้างขึ้นตั้งแต่วันนั้นไปจนเสร็จสิ้นการเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้นหาแผนทดแทนการปล่อยอย่างไรในอนาคต และอยากให้พี่น้องประชาชนคนไทยให้เชียร์นักกีฬาให้ได้มากที่สุดตลอดระยะเวลา 1 ปีที่จะถึงนี้ จะมีการให้อินฟลูเอนเซอร์ไปเจาะชีวิตนักกีฬาแต่ละสมาคม ให้แต่ละคนได้มีการสร้างตัวตน สร้างแฟนคลับให้คนไทยได้ส่งกำลังใจเชียร์กันอย่างเต็มที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวอีกว่า ในเรื่องของงบประมาณ 2,055 ล้านบาท ได้กำชับให้การกีฬาแห่งประเทศไทยของบผ่านงบปกติให้มากที่สุด และใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติให้น้อยที่สุด เพราะเงินกองทุนต้องใช้กับสมาคมกีฬาและนักกีฬามากที่สุด ส่วนเรื่องชนิดกีฬาเบื้องต้นกำหนดกันแล้วว่ากีฬาชนิดไหนจะจัดแข่งขันที่จังหวัดไหนบ้าง เพราะมีเจ้าภาพถึง 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานครม สงขลา, ชลบุรี โดยสงขลาได้ขอว่าอยากจะให้เพิ่มกีฬาให้มากขึ้น เพื่อเรียกกระแสความสนใจของประชาชนในจังหวัดและกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อระหว่างไทยกับมาเลเซีย หรือกีฬาฟุตบอลชายรอบรองชนะเลิศเป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการจะนำไปพิจารณากันอีกครั้ง
กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา ต่อด้วยกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569