เตือน "ภาคใต้ตอนล่าง" ฝนถล่มหนัก ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ 3 จว. เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง
เตือน "ภาคใต้ตอนล่าง" ฝนถล่มหนักต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองสาขาเพิ่มสูง พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ "ปัตตานี-นราธิวาส-ยะลา" เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งหลากท่วมพื้นที่
อัปเดตสถานการณ์ "น้ำท่วมภาคใต้" ล่าสุด นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหนักในภาคใต้อย่างใกล้ชิด และให้เร่งระดมกำลังพล เครื่องจักร เครื่องมือเข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
ขณะที่ ภาคใต้ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้มีพื้นที่น้ำท่วม 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำสะสม เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งต้องระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกด้วย
"ผอ.ศปช. แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมใต้ ซึ่งทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็ว และยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด หากเกิดเหตุต้องพร้อมอพยพทันที ขอให้ทุกหน่วยรีบเข้าพื้นที่ช่วยสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึงและเร็วที่สุด ทั้ง ปภ. กระทรวงกลาโหม กรมชลประทาน ฯลฯ รวมถึงเรื่องอาหารการกินก็สำคัญ ได้สั่งการให้ตั้งครัวชุมชน ขณะที่หลายหน่วย เช่น ศอ.บต. สนับสนุนวัตถุดิบ อาทิ ข้าวสาร ไข่ เพื่อนำไปทำอาหารกล่องแจกผู้ประสบภัยได้เร็วขึ้น"
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่ออีกว่า น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าร่วมประชุมคณะทำงาน ศปช. พร้อมสั่งทุกหน่วยระดมสรรพกำลัง โดยเฉพาะเรือยนต์ เรือท้องแบน ล่าสุด กระทรวงกลาโหม เตรียมส่งเรือท้องแบนเข้าพื้นที่คืนนี้ รวม 25 ลำ ไปที่ จ.ยะลา 10 ลำ , จ.ปัตตานี 5 ลำ , จ.นราธิวาส 5 ลำ และ จ.สงขลา 5 ลำ เร่งช่วยอพยพประชาชนที่ตกค้างไปในที่ปลอดภัยและที่ศูนย์พักพิง
ซึ่งขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เปิดศูนย์พักพิงรวม 20 แห่ง ที่ จ.ยะลา 7 แห่ง และนราธิวาส 13 แห่ง มีผู้เข้ารับบริการ 224 ราย ส่วนสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับผลกระทบ ปิดบริการ 8 แห่ง ที่ จ.ยะลา และสงขลา ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แต่ยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง พร้อมเตรียมทีม Sky Doctor รองรับผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน และย้ำให้สถานบริการสาธารณสุขป้องกันน้ำท่วม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน
ขณะที่ สทนช. รายงานสถานการณ์ฝนสะสม 7 วันที่ผ่านมา (ช่วงวันที่ 21-27 พ.ย. 67) ในภาคใต้ รวมแล้ว 1,138 มม. จากปริมาณฝนตกต่อเนื่องและตกสะสมดังกล่าว ทำให้ต้องแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างวันนี้ ถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองสาขา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดจะล้นตลิ่งและหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส จ.ยะลา ประกอบด้วย
- แม่น้ำปัตตานี บริเวณ อ.เมือง จ.ยะลา , อ.ยะรัง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จะสูงกว่าตลิ่ง 2 - 2.50 เมตร
- แม่น้ำสายบุรี บริเวณ อ.รามัน จ.ยะลา สูงกว่าตลิ่ง 2 - 2.80 เมตร
- คลองตุยง บริเวณ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระดับสูงกว่าตลิ่ง 0.80 - 1.50 เมตร
- แม่น้ำโก-ลก บริเวณ อ.สุไหงปาดี อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ระดับสูงกว่าตลิ่ง 1.40 - 2.00 เมตร
- คลองตันหยงมัส บริเวณ อ.เมือง อ.ระแงะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.50 - 2.30 เมตร
ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังเตรียมอพยพสิ่งของ เครื่องใช้ สัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่ปลอดภัย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ตอนล่าง จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-5 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก