ภาคใต้ เตรียมรับมือฝนตกหนักระลอก 2 ศปช. เตือน 5 จังหวัดเฝ้าระวังดินถล่ม

ภาคใต้ เตรียมรับมือฝนตกหนักระลอก 2 ศปช.  เตือน 5 จังหวัดเฝ้าระวังดินถล่ม

นายกฯ สั่ง ศปช. พร้อมรับมือฝนระลอก 2 สัปดาห์นี้ ระดมสรรพกำลังพร้อมรับมือฝนหนักภาคใต้ 3 - 5 ธ.ค. นี้ เตือน 5 จังหวัด เฝ้าระวังดินถล่ม พร้อมเร่งเยียวยาประชาชนหลังสถานการณ์คลี่คลาย

วันนี้ (2 ธ.ค. 67) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ระหว่างวันที่ 3 – 5 ธ.ค. 67 ตั้งแต่ จ. ชุมพรลงไป โดยเฉพาะ จ.สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

“นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจาก 1 – 2 วัน ที่ผ่านมานี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และประชาชนที่ศูนย์พักพิงบางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้านได้แล้ว แต่คาดว่าจะมีฝนตกหนักลงมาอีกในช่วงวันที่ 3 - 5 ธ.ค. นี้ ซึ่ง ผอ.ศปช. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมทั้งด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการคมนาคม และอื่นๆ พร้อมเครื่องจักรเครื่องกล เพื่อช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.”

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า วันที่ 2 – 4 ธ.ค. 67 ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่อ่อนไหวต่อการเกิดแผ่นดินถล่ม

ประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัด เฝ้าระวังอันตรายจากเหตุดินถล่ม ได้แก่

  1. จ.นราธิวาส (จะแนะ ศรีสาคร สุคิริน เจาะไอร้อง บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ แว้ง สุไหงปาดี เมืองนราธิวาส)
  2. จ.ปัตตานี (โคกโพธิ์ กะพ้อ ทุ่งยางแดง ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ยะรัง สายบุรี หนองจิก)
  3. จ.พัทลุง (ป่าบอน ป่าพะยอม ตะโหมด ศรีนครินทร์ ศรีบรรพต กงหรา เมืองพัทลุง ควนขนุน เขาชัยสน ปากพะยูน บางแก้ว)
  4. จ.ยะลา (เบตง กาบัง ธารโต ยะหา บันนังสตา รามัน เมืองยะลา กรงปินัง)
  5. จ.สงขลา (คลองหอยโข่ง ควนเนียง จะนะ เทพา นาทวี นาหม่อม เมืองสงขลา รัตภูมิ สะเดา สะบ้าย้อย หาดใหญ่ สิงหนคร ระโนด)

 
“สำหรับการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังประสบอุทกภัย เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ จัดตั้งศูนย์พักพิง/จุดอพยพ การจัดตั้งโรงครัว/รถประกอบอาหาร สนับสนุนรถผลิตน้ำดื่ม เร่งแจกจ่ายถุงยังชีพและช่วยเหลือขนย้ายผู้ประสบภัย นอกจากนี้ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยบินสำรวจสถานการณ์อุทกภัยเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด” นางสาว ศศิกานต์ กล่าว