รับสิทธิ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' ยืนยันตัวตน ภายใน 26 ธ.ค. 67 ก่อนถูกตัดสิทธิ

รับสิทธิ 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' ยืนยันตัวตน ภายใน 26 ธ.ค. 67 ก่อนถูกตัดสิทธิ

คลัง เร่ง ผู้ผ่านคุณสมบัติ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 878,431 คน ยืนยันตัวตน (e-KYC) เพื่อรับสิทธิสวัสดิการ ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ก่อนจะถือว่าไม่ประสงค์รับสิทธิ

โครงการบัตรสวัสกิการแห่งรัฐ บัตรคนจน ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดระยะเวลาการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำหรับผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับกลุ่มที่ยังไม่มายืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ จำนวน 878,431 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567)

โดยผู้ผ่านคุณสมบัติกลุ่มดังกล่าวจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน และผลการยืนยันตัวตนต้องแสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เพื่อรับสิทธิสวัสดิการภายใต้โครงการฯและสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป 
 

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนภายในวันดังกล่าว จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการย้อนหลังสำหรับเดือนก่อนหน้า ในกรณีที่ผู้ผ่านคุณสมบัติไม่ดำเนินการยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 จะถือว่าท่านไม่ประสงค์รับสิทธิ และสามารถลงทะเบียนใหม่ตามโครงการฯ ครั้งต่อไป

ทั้งนี้ ในการยืนยันตัวตน ผู้ผ่านคุณสมบัติจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ ได้ทุกวัน รวมวันเสาร์ - อาทิตย์ สาขาทั่วไปตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00 - 19.00 น.
 

สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้ (1) บัตรประจำตัวประชาชน(ผู้ลงทะเบียน) (2) หนังสือมอบอำนาจ (3) บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) (4) สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือ (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ (คลิก) หรือ https://welfare.mof.go.th