เจออีกระลอก เตือน ภาคใต้ รับมือฝนตกหนักสัปดาห์นี้ 4 จว.ยังอ่วม เร่งช่วยเหลือ

เจออีกระลอก เตือน ภาคใต้ รับมือฝนตกหนักสัปดาห์นี้ 4 จว.ยังอ่วม เร่งช่วยเหลือ

เจออีกระลอก! ศปช. แจ้งเตือน "ภาคใต้" รับมือฝนตกหนัก 12-16 ธ.ค.นี้ ขณะที่ น้ำท่วม 4 จังหวัดยังอ่วม เร่งระดมกำลังช่วยเหลือ

วันที่ 7 ธันวาคม 2567 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) วันนี้ รับทราบข้อสั่งการจาก นายกรัฐมนตรี ที่ให้ติดตามความคืบหน้า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อจัดเตรียมทำข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

 

โดยที่ประชุม ศปช. รายงานว่า จากการพยากรณ์อากาศและสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ จากพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด ที่ผ่านมามี 10 จังหวัด ขณะนี้คลี่คลายแล้ว โดยยังมีพื้นที่ประสบภัยอีก 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส ขณะที่ตัวเลขผู้ประสบภัยลดลงจาก 664,173 ครัวเรือน เหลือ 33,255 ครัวเรือนแล้วในวันนี้

ขณะที่วานนี้ (6 ธันวาคม 2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดยะลาและปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมีข้อสั่งการให้ ศอ.บต. ในฐานะ ศปช.ส่วนหน้า เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ สทนช. กรมชลประทาน และ ปภ. เร่งระบายน้ำในพื้นที่ให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมกันนี้ให้บริหารจัดการน้ำในเขื่อนบางลาง ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนท้ายเขื่อน โดยให้กรมประชาสัมพันธ์ติดตามข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12 - 16 ธันวาคม 2567 ที่จะมีฝนตกหนักอีกระลอก

"กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักอีกระลอกช่วงกลางเดือนนี้ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลาง โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ศปช. จึงได้สั่งการให้ ปภ. เข้าประจำการในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือ ทั้งเครื่องสูบน้ำ เรือ และรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

 

นางสาวศศิกานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับ 4 จังหวัดที่ยังประสบภัย กรมชลประทานได้ระดมเครื่องสูบน้ำ 118 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 31 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ เนื่องจากยังมีผู้ประสบภัย 20,988 คน ที่ต้องพักอาศัยในศูนย์พักพิง นอกจากนี้ยังได้ระดมกำลังพล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครแจกจ่ายถุงยังชีพ อาหารปรุงสุกจากโรงครัวพระราชทาน และทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข 1,218 ทีม เข้าดูแลทุกพื้นที่แล้ว

ขณะนี้ ปภ.ทุกจังหวัด ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด