แอบอ้างตำรวจ หลอกช่วยเอาเงินถูกโกงคืนมาได้ เสียค่าโง่ 3 แสน
มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตำรวจ หลอกว่าจะช่วยนำเงินที่ถูกโกงคืนมาได้ เสียค่าโง่สูญเงินไปกว่า 3 แสน สืบนครบาลรวบบัญชีม้าแถว 3
กรณี มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นตำรวจ หลอกว่าจะช่วยนำเงินที่ถูกโกงคืนมาได้ เสียค่าโง่สูญเงินไปกว่า 3 แสน สืบนครบาลรวบบัญชีม้าแถว 3
เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นายภูมี อายุ 41 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1631/2567 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2567
กระทำความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
จับกุมได้ที่หน้าบ้าน ซ.ประชาราษฎร์ 20 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
จากการตรวจสอบในระบบ พบว่ามีหมายจับอีก 2 หมายดังนี้
1. ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 386/2567 ลงวันที่ 13 กันยายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2. ศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 94/2567 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 25672567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ประมวลกฎหมายยาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) เสพ”
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้กล่าวหามา สน.แจ้งว่าเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ผู้กล่าวหาได้ซื้อซิมโทรศัพท์ผ่านเพจ facebook ชื่อ Sim HUP ซิมเน็ตมือถือรายปี (เพจปลอม) โดยโอนเงินไปชำระค่าสินค้า ไปยังบัญชีธนาคารยูโอบี ชื่อบัญชีนายเกษฎา เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 เวลา 14.30 น. จำนวน 1,635 บาท แต่ปรากฎว่าไม่ได้รับสินค้าตามที่ตกลง
ต่อมา ในวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ผู้กล่าวหาได้พบกับเพจเฟซบุ๊ก อ้างตัวว่าเป็นตำรวจไซเบอร์ สามารถนำเงินที่โดนฉ้อโกงไปกลับมาได้ โดยมีค่าดำเนินการต่าง ๆ ผู้กล่าวหาหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไป 10 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 380,290 บาท แต่เพจดังกล่าวไม่สามารถติดตามเงินมาคืนให้กับผู้กล่าวหาได้ และไม่คืนเงินจำนวนดังกล่าวที่ผู้กล่าวหาได้โอนไปจึงเชื่อว่าถูกหลอกจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวน พบว่าเส้นเงินคนร้ายได้มีโอนต่อไปยังบัญชีของนายภูมี (ผู้ถูกจับ) ซึ่งเป็นบัญชีม้าแถวที่ 3 จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับในที่สุด
หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาให้การกับเจ้าที่ตำรวจว่าตนได้ขายบัญชีธนาคารให้กับนายรุจซึ่งพักอาศัยอาศัยอยู่แถวไทรน้อย โดยขายให้ในราคาบัญชีละ 2,000 บาท จำนวน 3 บัญชี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,000 บาท
ตนยอมรับว่าต้องขายบัญชีเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัวและเติมเงินเล่นการพนันออนไลน์สล็อต ไม่คิดว่าการเปิดบัญชีจะทำให้ตนถูกจับในครั้งนี้ได้
วันนี้ตนรู้จากสาวว่ามีตำรวจจากสืบนครบาลมาตามที่บ้านที่พักอาศัยอาศัยอยู่ในจังหวัดอยุธยา พอดีตนไม่ได้อยู่บ้านจึงรู้ตัวก่อนตนจึงต้องเดินทางหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการนั่งรถทัวร์ไปลงที่หมอชิตกรุงเทพมหานครจากนั้นตนก็เดินทางไปที่บ้านแม่ของตนภายในจังหวัดนนทบุรี เพื่อนหนีมาตั้งหลักก่อน แต่กลับต้องตกใจที่เจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตามมาตั้งแต่จังหวัดอยุธยาจนถึงนนทบุรี ตนจึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทำบันทึกจับกุม ส่ง สน.คันนายาว ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทุกรูปแบบ
- ในปัจจุบันได้มีกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยการลงโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก (ยิง Ads) หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
- อ้างเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานราชการอื่น ระบุข้อความว่า “แจ้งความออนไลน์ได้ที่นี่” “ลงทะเบียนรับเงินคืนจากมิจฉาชีพ”
- หรือข้อความในลักษณะดังกล่าว โดยบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพสร้างขึ้นมา บัญชีเฟซบุ๊กปลอมมักจะมีการนำภาพของผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ มาใช้
- จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในใช้สื่อสังคมออนไลน์
- อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการรับแจ้งความหรือลงทะเบียนรับเงินคืนจากมิจฉาชีพ
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีช่องทางในการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านช่องทางออนไลน์ “เพียงช่องทางเดียว” คือ เว็บไซต์ เท่านั้น ไม่มีการรับแจ้งความร้องทุกข์ผ่านช่องทางแชตในเฟซบุ๊ก หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ อย่างแน่นอน
- หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงทางสื่อสังคมออนไลน์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ บน เว็บไซต์ thaipoliceonline หรือสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง