โดน! จับแก๊งหลอกโปรโมทสินค้า แอบอ้างแบรนด์ดัง เหยื่อรู้ตัวอีกทีเงินหมดตัว
อย่าปล่อยให้ลอยนวล ล่าสุดโดนแล้ว! ตำรวจจับแก๊งหลอกโปรโมทสินค้า แอบอ้างแบรนด์ดัง เหยื่อรู้ตัวอีกทีเงินหมดตัว ฟันคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน
ล่าพวกมิจฉาชีพ อย่าปล่อยให้ลอยนวล ล่าสุดโดนแล้ว ตำรวจจับแก๊งหลอกโปรโมทสินค้า แอบอ้างแบรนด์ดัง ฟันคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน เหยื่อรู้ตัวอีกทีเงินหมดตัว
สืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2565 ผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 ว่าตนเองเห็นเพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความ
- ไม่ต้องขายสินค้า,
- ทํางานที่บ้าน
- ไม่ต้องมีวุฒิการศึกษา,
- ทํางานวันละ 1-3 ชั่วโมง
ผู้เสียหายสนใจจึงได้สอบถามข้อมูล จากนั้นคนร้ายให้เหยื่อแอดไลน์ แจ้งข้อความว่า งานของทางเราคือช่วย บริษัท PHILIPS โปรโมทสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย ไม่มีการแชร์หรือโพสต์ และงานไม่ยากและไม่ผิดกฎหมาย เพียงออนไลน์หน้าระบบบริษัท สามารถสร้างรายได้ 300-9,000 บาท ต่อวัน
เมื่อสนใจจึงได้พูดคุยและร่วมลงทุน จนเงินในบัญชีของตนเองหมด สุดท้ายรู้ว่าตนเองถูกหลอกลวง รวมความเสียหายทั้งหมด จํานวนเงิน 148,500 บาท
พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท.ผบก.สอท.3 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 เร่งสืบสวนสอบสวนวิเคราะห์เส้นทางการเงิน จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทั้งขบวนการ จำนวน 7 ราย ตั้งแต่ บัญชีแถวที่ 1 จนถึงบัญชีแถวที่ 5
พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ธีรพงศ์ ใจอารีรอบ รอง ผกก.3บก.สอท.3, พ.ต.ท.ศิรสิทธิ์ ทันศรี สว.กก.3 บก.สอท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กก.3 บก.สอท.3 เร่งสืบสวนเพื่อกวาดล้างจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จนสามารถจับกุม
- น.ส.นันทพร
- น.ส.รัตนาภรณ์
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานะเป็นบัญชีม้าแถวที่ 2 โดยล่าสุดในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 - นายพลอย อายุ 66 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6201/2567 ลง 18 ธ.ค.2567 ได้ที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นบัญชีม้าแถวที่ 5
ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน
นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 สามารถสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ รวม 3 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาอายัดตัวในเรือนจำ 1 ราย ยังหลบหนีอีก 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุม
แก๊งหลอกโปรโมทสินค้า เหยื่อรู้ตัวอีกทีเงินหมดตัว
จากการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา น.ส.นันทพร รับว่าตนเองได้รับจ้างเปิดบัญชี เป็นเงิน 2,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าบัญชีดังกล่าวจะถูกนำมาใช้รับเงินจากผู้เสียหาย
และ น.ส.รัตนาภรณ์ รับว่าตนเองได้ถูกเพื่อนพาไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อใช้สำหรับกู้เงิน ภายหลังตนเองได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนจำนวนมาก จึงคิดว่าตนเองถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร จึงได้หลบหนีมาตลอด
ส่วนนายพลอย ที่ถูกจับกุมได้ล่าสุด ให้การว่า บัญชีธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดในคดีนี้ของตน ตนได้เปิดใช้และไม่ได้ใช้นานแล้ว ไม่ทราบว่า มีใครเอาไปใช้ต่ออย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลให้ถึงผู้จ้างวาน ตัวการที่นำบัญชีไปใช้ และผู้รับผลประโยชน์ของขบวนการนี้ เพื่อให้สามารถปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขบวนการนี้ได้อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
- พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,
- พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.
- พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร.
ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน - พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท.
- พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้
- พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.สอท. สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์
และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อสามารถติดตามทรัพย์สินที่หลอกลวงไปกลับมาเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว