อาการ แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย ล่าสุดแข็งแรงดี เตรียมปล่อยคืนธรรมชาติมีนาคมนี้

ทีมสัตวแพทย์ เผยอาการ "แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย" อพยพหนีหนาว หมดแรงร่วงตกบาดเจ็บ ล่าสุดแข็งแรงดีแล้ว เตรียมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติปลายเดือนมีนาคมนี้
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวอังสนา มองทรัพย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ร่วมตรวจสอบความพร้อมของ "แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย" จำนวน 4 ตัว ที่ได้รับการส่งมอบจาก สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา เพื่อเตรียมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในเดือนมีนาคมนี้
การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด และเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) โดยมี ผศ.น.สพ.ดร.ไชยยันต์ เกษรดอกบัว หัวหน้าหน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่าและกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ร่วมดำเนินการตรวจสอบสุขภาพอย่างละเอียด
ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสุขภาพแร้งทั้ง 4 ตัวอย่างครบถ้วน ประกอบด้วย การชั่งน้ำหนัก วัดขนาด ติดห่วงขา เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจสุขภาพและพันธุกรรม รวมถึงให้วิตามินและยาถ่ายพยาธิ ผลการประเมินเบื้องต้นพบว่าแร้งทั้งหมดมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถบินขึ้นเกาะคอนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มีแผนจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568
"แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย ถือเป็น นกล่าเหยื่อขนาดใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ การปล่อยคืนสู่ธรรมชาติจะช่วยเพิ่มประชากรของนกชนิดนี้ในธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันพบเห็นได้น้อยลงอย่างมาก"
สำหรับ "แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย" ได้อพยพหนีหนาวลงมาตามเส้นทางที่ต้องบินผ่านประเทศไทย และหมดแรงร่วงตกบริเวณภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในปี 2568 นี้ พบการร่วงตกของแร้งในพื้นที่จังหวัด สงขลา สตูล นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และระนอง ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 - ปลายเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยนำมาพักฟื้นที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา ไว้ทั้งหมดจำนวน 6 ตัว และมีการตรวจสุขภาพ คัดกรองโรคเบื้องต้น โดยทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) จากนั้นได้ดำเนินการแยกส่งไปยังสองพื้นที่ โดย 4 ตัวส่งไปยังสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และอีก 2 ตัว ส่งไปยังหน่วยฟื้นฟูนกล่าเหยื่อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อทำการดูแลรักษาและพักฟื้น ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
รู้จัก แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย
แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย (อังกฤษ : Himalayan griffon vulture; ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gyps himalayensis) เป็นนกล่าเหยื่อจำพวกอีแร้งขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ส่วนหัวและลำคอมีขนอุยสีขาว ขนแผงคอสีน้ำตาลอ่อนมีลายขีดสีขาว ลำตัวสีน้ำตาลออกเหลืองหรือสีกากีอ่อน ใต้ท้องสีน้ำตาลอ่อนกว่าด้านหลัง ก้านขนแต่ละเส้นจะมีลักษณะเป็นสีขาวเด่นออกมาจากพื้นสีลำตัว เมื่อยังเล็ก นกวัยอ่อนจะมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ มีลายสีขาวบนก้านขนอย่างเห็นได้ชัดเจนกว่านกวัยโต มีขนปีกและขนหางสีดำ ขนหางมีทั้งหมด 14 เส้น มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 110 เซนติเมตร ปีกเมื่อกางออกยาวได้ถึงเกือบ 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 8-12 กิโลกรัม
แร้งสีน้ำตาลหิมาลัย จัดเป็นแร้งหรืออีแร้งที่มีขนาดใหญ่รองมาจากแร้งดำหิมาลัย (Aegypius monachus) ที่สามารถพบได้แถบเทือกเขาหิมาลัยเช่นเดียวกัน กระจายพันธุ์อยู่ตามแถบเทือกเขาของภูมิภาคเอเชียกลางไปจนถึงจีนและไซบีเรีย โดยปกติจะอาศัยอยู่ในพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 600-2,500 เมตร เวลาบินหากินจะบินไปจนถึงระดับ 4,500 เมตร หรือสูงกว่านี้ จะหากินเพียงลำพังหรือพบเป็นฝูงเล็กๆ เพียง 2-3 ตัว โดยจะหากินตามช่องเขาหรือทางเดินบนเขา หรือบินตามฝูงสัตว์เพื่อรอกินซากของสัตว์ที่ตาย
แร้งสีน้ำตาลหิมาลัยมีฤดูผสมพันธุ์ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน รังมีขนาดใหญ่โดยทำจากเศษกิ่งไม้หรือวัสดุอื่นๆ ทำรังบนหน้าผาสูง ทำรังเดี่ยวหรือรวมกันเป็นหลายรังประมาณ 5-6 รังในที่เดียวกัน ตัวเมียจะวางไข่เพียงครั้งละ 1 ฟอง
แร้งสีน้ำตาลหิมาลัยไม่ใช่นกประจำประเทศไทย แต่เป็นนกอพยพที่ฤดูหนาวจะบินลงใต้มาอาศัยอยู่ยังประเทศไทยเพราะมีอากาศที่อบอุ่นกว่า สถานะอนุรักษ์ในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
อ้างอิง/ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช