ธปท. จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง งดแนบลิงก์ SMS

ธปท. จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง งดแนบลิงก์ SMS

ธปท. ออกประกาศใหม่ จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง สั่งธนาคาร งดแนบลิงก์ SMS ส่งอีเมล ป้องกันการสวมรอย ขอให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ถูกติดตั้ง mobile malware

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ โจรออนไลน์ระบาดหนัก! ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ออกประกาศใหม่! จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง สั่งธนาคาร งดแนบลิงก์ SMS ส่ง อีเมล

เพื่อป้องกันการสวมรอยเป็นสถาบันการเงิน การขอให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ถูกติดตั้ง mobile malware ออกกฎใหม่ ควบคุมเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ถอน-โอนเงินได้ ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

ธปท. จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง งดแนบลิงก์ SMS

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ 4/2568 เรื่อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ สำหรับสถาบันการเงิน

เหตุผลในการออกประกาศฉบับดังกล่าว ระบุว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) มีบทบาทสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงิน 

โดยเฉพาะการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันของสถาบันการเงินแก่ผู้ใช้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ (บริการ Mobile Banking) ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันการให้บริการ Mobile Banking ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (cyber threat) และภัยทุจริตทางการเงิน (fraud) ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและใช้เทคนิควิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้น อันอาจสร้างความเสียหายต่อผู้ใช้บริการในวงกว้าง 

ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของระบบสถาบันการเงินและระบบการชำระเงินของประเทศธนาคารแห่งประเทศไทย

ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันภัยทุจริตดังกล่าว จึงได้ออกประกาศหลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

เพื่อยกระดับการให้บริการ Mobile Banking ให้มีมาตรฐานขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนแอปพลิเคชั่นของสถาบันการเงินให้เป็นไปอย่างปลอดภัย

เท่าทันความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริตทางการเงินที่มีการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ (Unauthorized Payment Fraud

โดยสถาบันการเงินที่ให้บริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์เคลื่อนที่มีหน้าที่ต้องติดตามดูแลและปรับปรุงระบบงานและบริการ Mobile Banking ให้มีความมั่นคงปลดภัยตามมาตรฐานสากลเท่าทันภัยคุกคามทางไซเบอร์และภัยทุจริตรูปแบบใหม่ที่มีเทคนิคขับซ้อนขึ้น 

ครอบคลุมทั้งในส่วนของระบบการให้บริการของสถาบันการเงิน และความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการ

ธปท. จำกัดใช้งาน Mobile Banking 1 บัญชีต่อ 1 เครื่อง งดแนบลิงก์ SMS

การป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ

สถาบันการเงินต้องมีการป้องกันการสวมรอยทำธุรกรรมแทนผู้ใช้บริการ โดยอย่างน้อยต้องดำเนินการ ดังนี้

1. งดเว้นการแนบลิงก์ผ่านข้อความสั้น SMS และช่องทางอีเมล

แต่สำหรับกรณีช่องทางโลกออนไลน์ ให้สถาบันการเงินงดแนบลิงก์เฉพาะที่มีการขอข้อมูลยืนยันในการยืนยันตัวตน หรือข้อมูลส่วนบุคคล เช่น 

  • ชื่อผู้ใช้งาน 
  • รหัสผ่าน 
  • รหัสใช้ครั้งเดียว (OTP
  • รหัส PIN 
  • หมายเลขบัตรประชาชน 
  • วันเดือนปีเกิด 

เพื่อป้องกันการสวมรอยเป็นสถาบันการเงิน การขอให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ หรือการถูกติดตั้ง mobile malware

อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสามารถแนบลิงก์ผ่านทั้ง 3 ช่องทางได้ หากผู้ใช้บริการร้องขอเอง โดยสถาบันการเงินสามารถแนบลิงก์ได้เป็นรายครั้ง พร้อมทั้งสื่อสารย้ำให้ผู้ใช้บริการทราบว่าการส่งลิงก์เป็นกรณีเฉพาะตามคำร้องขอของผู้ใช้บริการเป็นรายครั้งเท่านั้น

2. มีกระบวนการติดตามและรับมืออย่างทันการณ์ต่อแอปพลิเคชันที่ปลอมแปลง

หรือแอบอ้างเป็น Mobile Banking ในแพลตฟอร์มที่เป็นทางการของผู้ให้บริการดาวโหลดแอปพลิเคชัน (office app strore) เช่น 

  • Google Play Store 
  • Apple App Store 

รวมทั้งมีการะบวนการรับมือและตอบสนองอย่างเหมาะสมและทันการณ์สำหรับแอปพลิเคชันปลอม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกหลงเชื่อและเปิดเผยข้อมูลสำคัญ ถูกติดตั้ง malware หรือติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม

3. จำกัดการใช้บริการ Mobile Banking ของผู้ใช้บริการไว้เพียง 1 บัญชีผู้ใช้งาน หรือ Account ต่อ 1 บริการ Mobile Banking ของแต่ละสถาบันการเงิน 

และจำกัดการใช้บริการดังกล่าวโดยให้ใช้งานบน 1 อุปกรณ์เคลื่อนที่ของผู้ใช้บริการเท่านั้น แต่ผู้ใช้บริการยังสามารถมีจำนวนบัญชีได้เท่าที่สามารถเปิดกับธนาคารได้ต้องจัดให้มีกระบวนการยืนยันตัวตนผู้ใช้บริการเพิ่มเติมในขั้นตอนการทำธุรกรรมผ่านบริการ Mobile Banking บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ 

โดยใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า (face comparison) ร่วมกับการตรวจจับการปลอมแปลงชีวมิติ (presentation attack detection) ที่สามารถป้องกันการใช้รูปภาพ วิดีโอ หรือปลอมแปลง โดยต้องดำเนินการในกรณีดังต่อไปนี้

  • ทำธุรกรรมโอนเงินในแต่ละครั้งมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป
  • ทำธุรกรรมโอนเงินมูลค่ารวมกัน ครบทุก 200,000 บาทใน 1 วัน
  • ปรับเพิ่มวงเงินการทำธุรกรรมการโอนให้สามารถโอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

ทั้งนี้ กรณีที่ผู้ใช้บริการมีข้อจำกัดในการใช้เทคโนโลยีเปรียบเทียบใบหน้า เช่น เป็นคนพิการทางสายตา สถาบันการเงินอาจพิจารณางดเว้นการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมตามที่กำหนด

โดยต้องมีแนวทางลดความเสี่ยงทดแทน หรือกรณีการทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น การโอนเงินระหว่างบัญชีตนเอง การโอนเงินประจำอัตโนมัติ ที่ได้ยืนยันตัวตนไปแล้วในครั้งแรก สถาบันการเงินอาจพิจารณางดเว้นการยืนยันตัวตนตามที่กำหนดข้างต้นได้

กำหนดเพดานวงเงินสูงสุดต่อวัน ถอนเงิน- โอนเงิน Mobile Banking

กำหนดเพดานวงเงินสูงสุดต่อวันสำหรับธุรกรรมถอนเงินหรือโอนเงิน ผ่านบริการ Mobile Banking ให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของกลุ่มผู้ใช้บริการ เพื่อลดความเสียหาย 

เมื่อผู้ใช้บริการตกเป็นเหยื่อ หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทุจริต เช่น กรณีกลุ่มผู้ใช้บริการที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ให้กำหนดวงเงินสูงสุดของการทำธุรกรรมถอนหรือโอนเงินรวมกันไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน เป็นต้น

วันเริ่มต้นบังคับใช้

  • ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 30 วันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

อ่านประกาศฉบับเต็มอย่างละเอียด ธปท. ประกาศ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของการให้บริการทางการเงินและการชำระเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ สำหรับสถาบันการเงิน (คลิก)

อ้างอิง-ภาพ : ราชกิจจานุเบกษา , ธนาคารแห่งประเทศไทย - Bank of Thailand