แนะ 5 วิธีรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ลดเสี่ยงอันตรายจากลมแรงและฟ้าผ่า

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวนจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงโดยในพื้นที่เสี่ยงให้ทำการตรวจสอบจุดต่างๆ ของบ้านเรือน อาคาร สำรวจสิ่งแวดล้อมรอบบ้านที่เสี่ยงต่อการหักหรือล้มให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย กำจัดขยะสิ่งกีดขวางร่องระบายน้ำกรณีมีฝนตกหนัก อีกทั้งหลบพายุฝนในบ้านหรืออาคารที่แข็งแรง ไม่อยู่ในในที่โล่งแจ้ง หรือหลบอยู่ในรถยนต์รอจนกว่าพายุฝนจะสงบ 

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยว่า ช่วงนี้บ้านเราสภาพอากาศเริ่มมีความแปรปรวนมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล

ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมแรงในบางพื้นที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 
 

ขอแนะการเตรียมพร้อมรับมือจากสภาพอากาศที่แปรปรวนจากพายุฝนฟ้าคะนอง ดังนี้  

1. ควรติดตามข่าวสาร สถานการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ หากมีประกาศแจ้งเตือนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด 

2. ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้มั่นคงแข็งแรง โดยเฉพาะประตู หน้าต่าง หลังคาบ้าน กระจก รวมไปถึงดูแลตัวโครงสร้างและส่วนของบ้านที่ต่อเติม เพื่อป้องกันแรงลมพัดบ้านเรือนเสียหาย  พร้อมดูแลสภาพแวดล้อมรอบบ้าน โดยตัดแต่ง กิ่งไม้ ต้นไม้สูงใหญ่ จัดทำที่ค้ำยัน  เพื่อป้องกันการหักโค่นหรือล้มทับ รวมถึงสำรวจป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์ สิ่งปลูกสร้าง หากไม่มั่นคงแข็งแรงให้รีบแจ้งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย พร้อมจัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมให้มิดชิด เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกสิ่งของพัดกระแทก อีกทั้งกำจัดขยะสิ่งกีดขวางทางน้ำ ในร่องน้ำ คูน้ำ รางน้ำฝน เพื่อเปิดทางระบายน้ำกรณีฝนตกหนัก 
 

3. ช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ควรอยู่ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่เสี่ยงต่อการแตกหักล้มทับได้  ไม่ประกอบกิจกรรมต่างๆ กลางแจ้ง ควรอยู่แต่ภายในอาคารจนกว่าพายุฝนฟ้าคะนองหยุด 

4. งดใช้เครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดเพราะจะเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า

5. ประชาชนที่อยู่ริมชายฝั่งทะเล ควรงดกิจกรรมทางทะเลในช่วงนี้  

ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  X @DDPMNews Line @1784DDPM สามารถแจ้งและขอความช่วยเหลือ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง