ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง ลอบขนข้ามชายแดน เงินหมุนเวียนปีละ 10 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง ลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้าน
กรณีตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง ลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้าน
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์
รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, และ พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2,
พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ "ซีลแม่น้ำโขง" ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง ลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้านบาท พร้อมยึดจานดาวเทียมลอบส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ
สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พรณรงค์ สุริยชัยวงษ์ รอง ผบก.สอท.3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด สืบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จนนำมาสู่การตรวจค้นเป้าหมาย เครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง และการทลายการลักลอบติดตั้งจานกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกลที่เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและจังหวัดหนองคาย จำนวน 2 ปฏิบัติการ ดังนี้
ปฏิบัติการที่ 1 สืบเนื่องจากกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากสำนักงานกฎหมาย R.W.T. ซึ่งได้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ไทยเมอร์รี่ จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้า “Taiyo”
ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟแช็กยี่ห้อดังของประเทศไทย โดยพบหลักฐานว่าถูกลักลอบนำเข้าผ่านชายแดน และนำไปจำหน่ายโดยปลอมเครื่องหมายการค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังมีการโพสต์ในลักษณะแอบอ้างว่า
สินค้าดังกล่าวเป็นของแท้ ซึ่งอาจเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด กระทั่งพบว่า เครือข่ายดังกล่าวกระจายอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร และมีลักษณะเป็นขบวนการมีการแบ่งหน้าที่กันทำจากการสืบสวนพบว่ามีเงินหมุนเวียนในขบวนการดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อปี
โดยได้ทำมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ และหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าว
กระทั่งในวันที่ 26 ก.พ. 2568 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุสรณ์ ธีรนุชพงศ์, พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม, พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ, พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง, พ.ต.ท.นฤภัทร เทียนชัยทัศน์, พ.ต.ท.นราภพ นวลเท่า, พ.ต.ต.ขจร แย้มชม, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ, พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ พระศรี, พ.ต.ต.วินัย ชมพุฒ, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ และกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด ได้กระจายกำลังพร้อมนำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นบ้านพักและสถานที่เก็บสินค้าผิดกฎหมายในพื้นที่ จ.มุกดาหาร จำนวน 5 จุด ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 4 ราย
พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นไฟแช็กปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ “Taiyo” จำนวน 2,050 ชิ้น, สมุดบัญชีธนาคาร, โทรศัพทมือถือที่ใช้บัญชีสำหรับรับโอนค่าสินค้า และสมุดจดรายละเอียดการส่งสินค้า
นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์)