คลัง อัปเดต แก้หนี้นอกระบบ ช่วยแล้ว 5.6 หมื่นราย วงเงินรวม 2 พันล้าน

อัปเดต เงินช่วยเหลือหนี้นอกระบบ กระทรวงการคลัง อนุมัติเงินช่วยลูกหนี้ แก้หนี้นอกระบบ แล้ว 5.6 หมื่นราย วงเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท
อัปเดต เงินช่วยเหลือหนี้นอกระบบ ล่าสุดวันนี้ (14 มีนาคม 2568) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อ แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ของกระทรวงการคลัง ที่ร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผ่านมาตรการสินเชื่อต่างๆ ได้แก่ โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ สินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน มาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ
โดยผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 - 13 มีนาคม 2568 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้ว จำนวน 56,691 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 2,016.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากแถลงข่าวกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 1,655 ราย และมียอดอนุมัติเพิ่มขึ้น 59.64 ล้านบาท
โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวต่อว่า กระทรวงการคลังมีนโยบายส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อยในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากเจ้าหนี้นอกระบบที่เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เจ้าหนี้นอกระบบสามารถเข้ามาให้บริการสินเชื่อในระบบอย่างถูกกฎหมาย
โดยปัจจุบัน ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีนิติบุคคล (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้ว 1,148 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,968,315 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 48,391.68 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อคงค้าง 379,620 บัญชี เป็นจำนวนเงินรวม 6,986.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ นิติบุคคลที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สามารถดูข้อมูลการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359