ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เด็กเสี่ยงจมน้ำสูง แนะวิธีป้องกันเด็กจมน้ำ

ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเด็ก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุทางน้ำที่คร่าชีวิตเด็ก ๆ ไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีป้องกันการจมน้ำในเด็ก โดยไม่ให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง ในแหล่งน้ำธรรมชาติหรือสถานที่ท่องเที่ยว อีกทั้งไม่ปล่อยให้เด็กเล็กอยู่ตามลำพังใกล้แหล่งน้ำ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เพราะหากพลัดตกน้ำจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ตลอดจนสอนให้เด็กเรียนรู้วิธีช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นเมื่อพลัดตกน้ำ และให้เด็กสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อประกอบกิจกรรมทางน้ำ

จุดเสี่ยงจมน้ำของเด็ก

• เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตบริเวณแหล่งน้ำภายในบ้าน อาทิ อ่างน้ำ โอ่งน้ำ บบ่อเลี้ยงปลา สระว่ายน้ำ
• เด็กอายุ 5-15 ปี เสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตในแหล่งน้ำธรรมชาติใก้บ้าน แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร แหล่งท่องเที่ยว อาทิ น้ำตก ทะเล

ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า การจมน้ำ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิต โดยเฉพาะช่วงปิดภาคเรียนระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นช่วงที่มีสถิติเด็กจมน้ำเสียชีวิตสูง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ ดังนี้ 

ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ไม่คุ้นเคย แม้เด็กจะว่ายน้ำเป็น แต่เนื่องจากแหล่งน้ำมีความลึก ความชัน และความแรงของกระแสน้ำที่ต่างกันจึงเสี่ยงต่อการจมน้ำเสียชีวิต 

ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด โดยเด็กต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นตลอดเวลาและเข้าถึงได้ทันที หากเด็กพลัดตกน้ำจะได้ช่วยเหลือทัน ไม่ประกอบกิจกรรมอื่นขณะดูแลเด็ก อาทิ คุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความ เล่นเกม เพราะการละสายตาจากเด็กในช่วงเวลาสั้นๆ หากเด็กจมน้ำจะไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัน 

สำรวจและปิดจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำ โดยจัดให้มีฝาครอบปิดภาชนะเก็บน้ำ ล้อมรั้วรอบบ่อน้ำและติดป้ายเตือนอันตราย 

สอนเด็กเรียนรู้อันตรายจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ไม่ลงไปเก็บสิ่งของในแหล่งน้ำ ไม่ก้มตัวหรือชะโงกหน้าลงไปในภาชนะเก็บน้ำ เพื่อป้องกันการพลัดตกน้ำเสียชีวิต กำหนดพื้นที่ในการเล่นของเด็ก โดยไม่ให้เด็กเล่นตามลำพังบริเวณจุดเสี่ยงต่อการจมน้ำ อาทิ ริมตลิ่ง ชายทะเล น้ำตก บ่อน้ำ อ่างน้ำ ห้องน้ำ เพราะหากพลัดตกน้ำ เด็กจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างปลอดภัย 

สอนเด็กป้องกันตนเอง ให้ใช้อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยทุกครั้งที่โดยสารเรือหรือประกอบกิจกรรมทางน้ำ อาทิ เสื้อชูชีพ โฟม ห่วงยาง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน อุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยพยุงตัวเด็กให้ลอยตัวในน้ำ เพื่อรอการช่วยเหลือ ส่งเสริมให้เด็กมีทักษะการว่ายน้ำและช่วยเหลือตนเองเมื่อพลัดตกน้ำ โดยฝึกให้เด็กลอยตัวในน้ำ ด้วยการใช้มือทั้งสองข้างสลับกันพุ้ยน้ำ หรือใช้ขาถีบน้ำในท่าปั่นจักรยาน หากพลัดตกน้ำ เด็กจะได้สามารถช่วยเหลือตนเองอย่างปลอดภัย 

การป้องกันเด็กจมน้ำเป็นหน้าที่ของทุกคนในครอบครัวและชุมชน การดูแลอย่างใกล้ชิด การให้ความรู้ และการเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัย จะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนานและปลอดภัยในช่วงปิดเทอมนี้