SDG Index ชี้ปัญหาร่วมภาคเหนือ ปัญหาฝุ่น-สังคมสูงวัย-รายได้ต่ำ

สกสว.หนุน SDG Move จัดเวทีระดมสมองความต้องการในพื้นที่ภาคเหนือ ภาครัฐ-ประชาชนเห็นพ้อง “ฝุ่น PM2.5-สังคมสูงอายุ-รายได้ต่ำ” เป็นปัญหาหนักที่ต้องเร่งแก้ไขด่วน
ผศ.ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำทีมคณะทำงานจับมือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทีมงานระดับภาคเหนือ
เปิดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งสำคัญ “นำเสนอข้อมูลความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับภูมิภาค และรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับพื้นที่ (ภาคเหนือ)” ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.)
ในโอกาสนี้ ผศ. ดร.ไพรัช พิบูลย์รุ่งโรจน์ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมแสดงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือทั้งในสถาบันและชุมชนโดยรอบ
เน้นการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม มุ่งสู่การพัฒนาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน
ด้าน ศ.สุริชัย หวันแก้ว ประธานเครือข่ายวิชาการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนประเทศไทย (SDSN Thailand) ที่กล่าวถึงบทบาทของภาควิชาการในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญขององค์ความรู้และความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับภาควิชาการในการเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน
พร้อมส่งเสริมกระบวนการทำงานแบบบูรณาการ นำหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนมาเชื่อมโยงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับรากฐานไปจนถึงระดับสากล เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มั่นคงและสามารถต่อยอดไปสู่ระดับนานาชาติ
นอกจากนี้คณะทำงานจาก สกสว. ได้ร่วมให้ข้อเสนอแนะโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนแผนวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.) เพื่อรองรับการพัฒนาในระดับพื้นที่
ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์งานวิจัยของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบแนวทางที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
จากการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความท้าทายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยใช้ SDG Index ระดับจังหวัดและภูมิภาคของทีม SDG Move พบว่าภาคเหนือเผชิญกับปัญหาหลักที่เกี่ยวข้องกับ 8 เป้าหมายของ SDGs ได้แก่
- การขจัดความยากจน (SDG 1)
- การขจัดความหิวโหย (SDG 2)
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDG 3)
- งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8)
- โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม และอุตสาหกรรม (SDG 9)
- เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (SDG 11)
- การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (SDG 12)
- หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17)
ทั้งนี้ ตัวชี้วัดเกี่ยวกับ PM2.5 ใน SDG Index อยู่ภายใต้ SDG 11 เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหามลพิษทางอากาศที่ยังคงรุนแรงในหลายจังหวัดของภาคเหนือ
นอกจากนี้ SDG Index ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างจังหวัด
โดยแม่ฮ่องสอนมีคะแนน SDG Index ค่อนข้างต่ำ และถูกจัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่มีความท้าทายมากที่สุด
โดยเฉพาะด้านการขจัดความยากจน (SDG 1) ความเท่าเทียมทางเพศ (SDG 5) น้ำสะอาดและสุขาภิบาล (SDG 6) เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (SDG 11) การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13) และระบบนิเวศบนบก (SDG 15) ซึ่งสะท้อนถึงข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรของพื้นที่
ในขณะที่ลำพูนแม้จะมีค่าเฉลี่ย SDG Index สูงที่สุดในภาคเหนือ แต่ยังคงเผชิญปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDG 3) และเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (SDG 11) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ ปัญหาร่วมสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือที่ต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ มลพิษจาก PM 2.5 ที่รุนแรงขึ้นทุกปี คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่ต้องการมาตรการรองรับที่มีประสิทธิภาพ
การจัดการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน ค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ของประชาชนในพื้นที่ และประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ เป็นต้น
โดยทางออกที่จะแก้ไขปัญหานั้นจะต้องอาศัยการศึกษาวิจัยผลกระทบและสาเหตุของมลพิษ PM 2.5 เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่มีประสิทธิภาพ งานวิจัยเพื่อทำความเข้าใจการจัดการศึกษาที่ไม่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และกำหนดมาตรการแก้ไขที่เหมาะสมกับพื้นที่
การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยที่กำลังขยายตัว รวมถึงการศึกษาวิจัยด้านที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่.