สั่งปิด อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ไม่มีกำหนด หลังพบจุดความร้อนสูง

อธิบดีอุทยานฯ สั่งปิด อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ไม่มีกำหนด หลังพบจุดความร้อนสูง มากกว่าปีที่แล้วถึง 38.90 % เตือนมือเผาป่า โทษหนักจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับ 2 ล้าน
วันนี้ (25 มี.ค. 68) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จังหวัดพะเยา มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ รวมถึงสร้างปัญหาฝุ่นควันอย่างมาก จึงจำเป็นต้องประกาศปิดอุทยานแห่งชาติดอยภูนางอย่างถาวร โดยห้ามเข้าไปเก็บหาของป่าทุกกรณี ตั้งแต่วันนี้ (25 มี.ค. 68) เป็นต้นไป เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งจะเป็นกรณีเดียวกันกับการประกาศปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระอย่างที่ผ่านมา ซึ่งการปิดพื้นที่เป็นไปตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเอาจริง เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดลักลอบเผาป่ามาลงโทษหนักให้ได้ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ลักลอบเผาป่าอย่างไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จากรายงานพบว่ามีจุดความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 - 25 มีนาคม 2568 พบจุดความร้อน 557 จุด เพิ่มขึ้นกว่าในปี 2567 ที่พบจุดความร้อนในช่วงเวลาเดียวกันนี้เพียง 401 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 38.9 %
ทั้งนี้ ได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จาก 8 หน่วยพิทักษ์ และ 1 จุดสกัด รวม 94 นาย เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟ 30 นาย จากศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าแพร่และเชียงราย ร่วมกับชาวบ้านที่ได้รับการจ้างประจำจุดเฝ้าระวังอีก 50 จุด จำนวน 150 คน เฝ้าระวังและเข้าควบคุมไฟป่าในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น
โดยภาพรวมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการเผาป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์แล้ว จำนวน 63 คดี ผู้ต้องหา 21 คน พื้นที่เสียหาย 2,772 -0 -64.25 ไร่ ส่วนภาพรวมจุดความร้อนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 พบจุดความร้อนลดลงจากปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกันนี้เท่ากับ 32.69% โดยพบจุดความร้อนในป่าอนุรักษ์จำนวน 17,339 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มี.ค. 68)
ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังผู้ลักลอบเผาป่า ซึ่งการกระทำความผิดฐานเผาป่า นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลงโทษเพิ่มเติมได้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ผู้กระทำผิดจะต้องรับผิดทางแพ่งต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรป่าไม้ในอัตราไร่ละ 120,000 บาท โดยเงินค่าเสียหายนี้จะนำไปใช้ในการฟื้นฟูสภาพป่าและระบบนิเวศที่ถูกทำลายจากไฟป่าด้วย