'เอกนัฏ' สั่ง ทีมสุดซอย เช็กมาตรฐานเหล็กเส้น ตึก สตง. ถล่ม

'เอกนัฏ' สั่ง ทีมสุดซอย เช็กมาตรฐานเหล็กเส้น ตึก สตง. ถล่ม

"เอกนัฏ" ลงพื้นที่ ตึก สตง. ถล่ม ลุยเช็กมาตรฐานเหล็กเส้น ขยายผลไปยังโรงงานผลิตเหล็ก หวั่นโยงเหล็กทุนเทาข้ามชาติ

นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมานั้น นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการไปยังทีมสุดซอยพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปเก็บหลักฐาน ที่จุดเกิดเหตุบริเวณตึกสตง.ถล่ม ซึ่งหากพบว่าทางผู้ก่อสร้างมีการใช้เหล็กเส้นที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะใช้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเอาผิดถึงที่สุด และขยายผลไปยังโรงงานผลิตเหล็กด้วย 

\'เอกนัฏ\' สั่ง ทีมสุดซอย เช็กมาตรฐานเหล็กเส้น ตึก สตง. ถล่ม

นายพงศ์พล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการวิเคราะห์ตามแบบแปลนโครงสร้างตึกของ สตง. ที่กำลังก่อสร้าง มีความสูง 30 ชั้น คาดว่าต้องใช้เหล็กเส้นข้ออ้อย (ที่เป็นเส้นกลมมีบั้ง) คาดว่าขนาด DB16 DB20 DB25 เป็นหลักในการเสริมแรงโครงสร้างคอนกรีต โดยเฉพาะในส่วนของ เสา คานพื้น และฐานราก เพื่อรองรับน้ำหนักและแรงอัด แรงดึง และแรงเฉือน และหากมีการใช้เหล็กเส้นข้ออ้อยที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามหลักทางวิศวกรรม จะทำให้โครงสร้างเปราะและแตกหักง่าย เพราะส่วนประกอบของเหล็กที่มีสัดส่วนคาร์บอนหรือสัดส่วนโบรอน(ธาตุชุบแข็งเหล็ก) มากเกินไป ก็จะทำให้เหล็กมีความแข็งแต่เปราะ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือแรงกระแทกที่รุนแรง จะทำให้เหล็กหักเป็นท่อนๆ แทนที่จะโค้งงอและดูดซับแรง ส่งผลให้โครงสร้างตึกถล่มลงมาได้ 

\'เอกนัฏ\' สั่ง ทีมสุดซอย เช็กมาตรฐานเหล็กเส้น ตึก สตง. ถล่ม

การผลิต นำเข้า จำหน่ายเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นเหตุที่อาจทำให้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเสียหาย ถือเป็นอาชญากรรมที่ปล่อยผ่านไม่ได้ ซึ่งรัฐมนตรีฯเอกนัฏ ได้มีการเอาจริงเอาจังในประเด็นนี้มาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีกับผู้ผลิตและจำหน่ายที่เป็นบริษัทร่วมจดทะเบียนและบริษัทต่างชาติ ไปแล้วรวม 7 ราย ล่าสุด ได้สั่งปิดโรงงานผลิตเหล็กทุนข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เพราะไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย และยังตรวจเจอสินค้า เหล็กเส้นข้ออ้อย SD 40 และSD 50 ที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ตาม มอก. 24-2559  ทดสอบโดยสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยด้วย จึงมีการสั่งลงโทษตามกฎหมาย เพื่อตัดต้นตอความสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายต่อประชาชน