เยียวยาน้ำท่วม 9 พัน ครม. อัดฉีดงบเพิ่ม 781 ล้าน ขยายเวลาช่วยเหลือ

ครม. ทุ่มงบกลางกว่า 781 ล้านบาท จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท พร้อมขยายระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน หลังยอดตกค้างยังสูง หวังช่วยประชาชนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
วันนี้ (22 เม.ย. 68) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจากงบกลาง ปี 2568 จำนวน 781.88 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (เยียวยาน้ำท่วม) ในช่วงฤดูฝน ปี 2567 เพิ่มเติมอีก ครัวเรือนละ 9,000 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ พร้อมทั้งอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือออกไปอีก 15 วันทำการ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า การอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ยังตกค้างอยู่ได้รับเงินเยียวยาอย่างครบถ้วน โดยงบประมาณดังกล่าวจะครอบคลุมผู้ประสบภัยใน 2 ช่วงเวลาและ 17 จังหวัด ที่ยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ ได้แก่
- ช่วงที่ 1 (20 พฤษภาคม 2567 – 2 พฤศจิกายน 2567): จังหวัดชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี
- ช่วงที่ 2 (3 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567): จังหวัดกระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ ครม. ยังได้อนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือที่เคยอนุมัติไว้แล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ออกไปอีก 15 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ เนื่องจากยังมีผู้ประสบภัยที่ได้ลงทะเบียนไว้แต่ยังอยู่ในขั้นตอนรอการโอนเงินอีก 86,876 ครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมประมาณ 781.88 ล้านบาท
นางสาวไตรศุลี กล่าวเพิ่มเติมว่า การขยายระยะเวลาครั้งนี้จะช่วยให้การช่วยเหลือเข้าถึงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง และมีเงินสำหรับการดำรงชีพเพื่อกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว
สำหรับผลการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้วงเงินงบประมาณเดิม 8,693.51 ล้านบาท มีความคืบหน้าดังนี้
- จ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 596,307 ครัวเรือน เป็นเงิน 5,366.76 ล้านบาท
- อยู่ระหว่างโอนจ่ายเงิน 402,437 ครัวเรือน เป็นเงิน 3,621.93 ล้านบาท
- อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะบุคคล 3,532 ครัวเรือน เป็นเงิน 31.78 ล้านบาท
การอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมและการขยายระยะเวลาในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการบรรเทาความเดือดร้อนและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง