ตำรวจแถลง '4 มาตรการ' ปราบเด็กแว้น จัดชุดเคลื่อนที่เร็วกว่า 1,000 ชุด
หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ปรากฎภาพเด็กแว้นออกมาซิ่งรถหลายพื้นที่ ตร.ขานรับประกาศ 4 มาตรการ ตั้งรางวัลแจ้งเบาะแส และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วกว่า 1,000 ชุดเฝ้าระวังการกระทำผิด
พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อม พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และ พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ บุญพล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ร่วมกันแถลงมาตรการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทาง หรือ การรวมกลุ่มมั่วสุมในลักษณะนำไปสู่การแข่งรถในทาง หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว แต่มีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวกัน เช่น จังหวัดสงขลา มีวัยรุ่นรวมกลุ่มเต้นโชว์บนถนน ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น.
ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 6 ราย มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พบว่าเป็นเยาวชนอายุ 15 ปี ถึง 18 ปี ทำไปเนื่องจากความคึกคะนอง ซึ่งเยาวชนทั้ง 6 โดยถูกเปรียบปรับในข้อหา พรก.ฉุกเฉิน 1,000 บาท และมีเยาวชน 3 ราย ถูกปรับข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่ อีก 500 บาท ส่วนผู้ปกครองถูกเชิญตัวมาทำทัณฑ์บน และถูกปรับอีก 500 บาท นอกจากนี้จะเร่งติดตามผู้เผยแพร่คลิปเด็กแว้นเก่า สร้างความตื่นตระหนกให้สังคม
พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการแก้ไขของตำรวจ แบ่งออกเป็น 4 ช่วง ประกอบด้วย 1. ก่อนเกิดเหตุ มีการรวบรวมข้อมูลกลุ่มเสี่ยง 2. ขณะเกิดเหตุ รับแจ้งจากประชาชน มาประมวลผล และจัดสายตรวจลงพื้นที่กวดขัน 3. มาตรการสอบสวนขยายผล โดยนำข้อมูลกลุ่มอายุ และสถานที่เกิดเหตุและลงฐานระบบ crimes เพื่อตั้งจุดตรวจจัดสกัดในพื้นที่เสี่ยง และ 4.มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ส่วนของประชาชนที่ส่งคลิปภาพแจ้งเบาะแสการแข่งรถในทาง หรือ แอดมินเพจที่สนับสนุนให้มีการแข่งรถ มาที่สายด่วน 1599 หรือ 191 หรือ เพจเฟซบุ๊กศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. จนนำไปสู่การจับกุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมอบเงินรางวัลตอบแทนให้รายละ 3,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ได้เงินรางวัล รวม 19 ราย และอยู่ระหว่างการรับเงิน 3 ราย
ขณะที่ด่านเคอร์ฟิวกว่า 500 จุดทั่วประเทศ ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นจุดตรวจ จุดสกัด กว่า 1,000 จุด รวมทั้งชุดเคลื่อนที่เร็วกว่า 1,000 ชุด เพื่อเฝ้าระวังการกระทำความผิดโดยผลการจับกุมตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2562 ถึง 30 เมษายน 2563 สามารถจับกุมการผู้แข่งรถในทาง ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และสนับสนุนให้มีการแข่งรถ รวม 1,699 ราย ดำเนินคดีผู้ปกครอง ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก 51 ราย และแอดมินเพจ รวม 101 ราย