กราดยิงงานแต่ง เสียชีวิต-บาดเจ็บ คืบหน้าแกะรอยคนร้าย ปมก่อเหตุ

ครอบครัวเหยื่อคนร้าย กราดยิงถล่มงานแต่งกลางกรุง รับศพนิติเวช รพ.รามาฯ ปฎิเสธให้สัมภาษณ์สื่อ ระบุยังไม่พร้อม ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ด้านตร.ติดต่อรับหัวกระสุน หลังผ่าพิสูจน์ผู้เสียชีวิต-ผู้บาดเจ็บ ใช้เป็นหลักฐานแกะรอยหาตัวคนร้าย

ภายหลังเกิดเหตุอุกอาจ คนร้ายกราดยิงถล่มงานเลี้ยงฉลอง งานแต่งงานช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บบนั้น ล่าสุดทางด้านครอบครัวนายณัฐที่ถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่กำลังร่วมงานเลี้ยงฉลองงานแต่งของเพื่อนสนิท ย่านสุทธิสาร ก่อนถูกคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนกราดยิง จนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ได้เข้ารับศพที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา

โดยทางพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน โดยอ้างว่าขณะนี้ยังไม่พร้อม และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือ ว่าจะทำการเคลื่อนศพไปประกอบพิธีที่ใดเนื่องจากทางผู้เสียชีวิต ได้อาศัยอยู่กับพ่อ และเรียนจบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย มานานแล้ว โดยทางภรรยา หรือแม่ ได้แยกย้ายกันอยู่มานานแล้ว

ขณะที่ทางตำรวจ สน.สุทธิสาร ได้เดินทางเข้ามาติดต่อเพื่อรับหัวกระสุน ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี จากการผ่าพิสูจน์ของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้บาดเจ็บในแต่ละโรงพยาบาล ที่มีหัวกระสุนฝังใน ซึ่งมีโรงพยาบาลราชวิถี 2 คน และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 คน แต่มีหัวกระสุนฝังเพียง 1 คน ซึ่งเป็นหลักฐาน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ติดตามตัวคนร้าย

ล่าสุด ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และใกล้เคียง พบภาพวงจรปิดคนร้าย 2 คน หลังก่อเหตุเสร็จได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางมุ่งหน้าพหลโยธิน โดยพบว่าคนร้ายทั้งสองคน สวมเสื้อคลุมสีเขียว ลักษณะเสื้อคลุมของไรเดอร์ค่ายหนึ่ง ส่วนอีกคันที่ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด

ขณะที่ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณหน้าบ้าน ซอยสุทธิพงศ์ 1/1  ยังพบร่องรอยกระสุนปรากฎตามจุดต่างๆ เช่น รถยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. มีรถ จยย. จำนวน 2-3 คัน ขับวนประมาณ 2-3 รอบ จากนั้นคันหลังได้ขับมาจอดบริเวณหน้างาน ก่อนที่คนที่ซ้อนท้ายรถ จยย. จะลงเดินเข้ามาคนเดียวแล้วยิงปืนเข้ามา ส่วนอีกคนไปยิงบริเวณอื่น

"ตอนที่เขายิงไม่มีการตะโกนถาม หรือพูดคุยก่อน น่าจะมีเรื่องกันมาตั้งแต่ข้างนอก และคิดว่าผู้คนภายในงานต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ยิง เพราะมีวัยรุ่น ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานฝ่ายเจ้าบ่าวเข้ามาชาร์จแบตโทรศัพท์ และบอกว่าพวกตนไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้คิดว่าน่าจะมีคนที่รู้ที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครที่รู้เรื่องนี้" 

ผู้เห็นเหตุการณ์บอกอีกว่า ขณะเกิดเหตุโชคดีที่มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ถ้าไม่มีจอดขวางไว้ พวกตนอาจจะถูกลูกหลงไปด้วย ก่อนเกิดเหตุ แขกในงานก็นั่งสังสรรค์ตั้งแต่วันเสาร์ ซึ่งเพื่อนฝ่ายเจ้าบ่าวมาร่วมงานเยอะ น่าจะรู้เรื่องที่จะมีการกราดยิง ไม่อย่างนั้นคงไม่เจาะจงมา ซึ่งขณะเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่มีการตะโกนหรือพูดคุยอะไรก่อน ลงมาจากรถ จยย. แล้วยิงเลย ซึ่งจำนวนปืนนั้นน่ามีไม่ต่ำกว่า 2 กระบอก 

“ยิงหลายนัด ดูแล้วไม่ได้ยิงมั่ว ยิงมาบริเวณนี้อย่างเดียว คิดว่าภายในงานต้องรู้กัน ส่วนเรื่องที่เพื่อนเจ้าบ่าวจะลุกไปนั้นผมไม่ทราบ แต่ไม่ได้มีการยิงสวนไป  คิดว่าคงเขม่นกันมาตั้งแต่วันเสาร์ เพราะช่วงวันเสาร์มีวัยรุ่นที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว  นั่งกินสังสรรค์กันอยู่ข้างนอกคอยเฝ้ายามอยู่ตลอด มีการระวังตัวอยู่ ”

หลังเกิดเหตุเพื่อนของเจ้าบ่าวยังไม่มีการมาพูดคุยกับตนแต่อย่างใด รวมถึงตัวเจ้าบ่าวเองตนไม่ค่อยได้สัมผัส เพราะเป็นคนรักของลูกสาวเจ้าของบริษัท ตนเป็นหัวหน้าช่างที่คอยดูแลงานในบริษัท และไม่ทราบเรื่องสถาบันของเจ้าบ่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร