บุกแก๊ง "มินมินอู" 13 จุด กทม.-ปริมณฑล ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด 400 ล้าน

หน่วยอรินทราช - ป.ป.ส. บุกอายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด “มินมินอู” 13 จุด กทม.และปริมณฑล  เส้นทางเงินซื้อบ้านหรู-คอนโดฯและเงินในบัญชี ร่วม 400 ล้านบาท ฟอกเงินยาเสพติดซื้อบ้านหรู-ปล่อยเช่า เร่งหาความเชื่อมโยงผู้เช่า ขณะที่ออกหมายจับชาวจีน 1 ราย พบไม่อยู่ในไทยแล้ว ขยายผลหาทรัพย์สินเกี่ยวพันอีกหลายรายการ

เจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราช พร้อมตำรวจนครบาล และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. นำหมายค้นเข้าอายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดมินมินอู 13 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจุดหลักอยู่ภายในหมู่บ้านหรูย่านศรีนครินทร์ ซึ่งตำรวจสืบทราบว่าเครือข่ายของกลุ่มมินมินอู นำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดไปซื้อบ้านหรู 3 หลังในหมู่บ้านดังกล่าว หลังละ 50-70 ล้าน รวมมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท

พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า การยึดทรัพย์ในวันนี้ เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด 8 คดีในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายมินมินอู เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ชาวเมียนมา ที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาทางจังหวัดเชียงราย และมีคนไทยและคนจีนร่วมขบวนการ โดยจากการจับกุม 8 คดี สามารถยึดยาบ้าได้กว่า 22 ล้านเม็ด , และยาไอซ์อีกกว่า 500 กิโลกรัม

ตำรวจจึงประสาน ป.ป.ส. มีคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน 3 หลัง และคอนโดมิเนียม 9 ห้อง และอายัดเงินสดในบัญชีอีก 72 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 380 ล้านบาท และออกหมายจับผู้ต้องหาชาวจีนอีก 1 คน ซึ่งมีหน้าที่นำเงินที่ได้จากขบวนการยาเสพติดไปซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมดังกล่าว

 อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นบ้าน 2 หลังแรก พบว่ามีการปล่อยให้บุคคลอื่นเข้ามาเช่าอยู่อาศัย ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานว่าบุคคลที่มาเช่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ เนื่องจากผู้เช่าบางรายมีการถือครองโฉนดคอนโดมิเนียมอีก 5 แห่ง และยังพบเงินสดในตู้เซฟอีกจำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้

ส่วนบ้านหลังที่ 3 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับ ไม่พบว่ามีใครอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจากข้อมูลเชื่อได้ว่าคนจีนรายนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามจากแนวทางการสืบสวนยังเชื่อได้ว่า ภายในหมู่บ้านดังกล่าวอาจมีบ้านอีกกว่า 10 หลัง ที่ขบวนการยาเสพติดเครือข่ายนี้มาซื้อไว้ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลยึดอายัดทรัพย์สินที่เหลือ ซึ่งคาดว่าอาจมีทรัพย์สินระบบอีกกว่า 1,000 ล้านบาท